“ปรีชา” ยันยื่นขออภัยโทษเขมรตั้งแต่ปลายปี 54 แล้ว แต่ไม่เคยรับล่วงพื้นที่เขมร โทษรัฐบาล “มาร์ค” ทำพี่ชายไม่ทราบเส้นเขตแดน หวัง “ฮุนเซน” อนุเคราะห์ปล่อยตัว ระบุครอบครัวไม่หวังขยายประเด็นการเมืองอีก ด้านอธิบดีกรมสารนิเทศขอรอดูท่าทีเพื่อนบ้าน เผย รมว.กต.สั่งทูตถกลดโทษเพื่อได้ปล่อยตัวเร็วขึ้น
วันนี้ (16 เม.ย.) มีรายงานว่า สำนักข่าวเนชั่นได้สัมภาษณ์ นายปรีชา สมความคิด น้องชายของนายวีระ สมความคิด ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุได้หารือกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงการปล่อยตัวนายวีระ และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ โดยทั้ง 2 ต้องยอมรับข้อกล่าวหารุกล้ำดินแดนกัมพูชาว่า ในปลายปี 2554 นายวีระได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษต่อรัฐบาลกัมพูชาไปแล้ว ซึ่งในเอกสารได้แสดงการยอมรับกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยยอมรับข้อกล่าวหาของกัมพูชาที่ระบุว่าได้ล่วงล้ำเข้าไปยังดินแดนกัมพูชาจริง
“หากว่ากันในหลักสากล ประชาชนจะให้การรับรองเขตแดนของประเทศได้หรือไม่ และนายวีระ และนางสาวราตรี จะมีสิทธิอะไรจะไปชี้ว่าแนวไหนเป็นเขตแดนไทย หรือกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้เป็นความตกลงระหว่างรัฐกับรัฐ เรื่องนี้ต้องถามกลับไปยังรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในสมัยนั้นมีความเห็นต่อหลักเขตแดนในพื้นที่ตรงนั้นอย่างไรบ้าง พี่ชายผมไม่ทราบถึงเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ดังกล่าว” นายปรีชากล่าว
นายปรีชากล่าวว่า การที่นายวีระ และนางสาวราตรียอมรับกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา โดยไม่ขอยื่นอุทธรณ์ต่อไปก็ด้วยครอบครัวของทั้งสองคนไม่ต้องการให้เรื่องนี้ขยายเป็นประเด็นทางการเมืองอีกต่อไป หรือเพียงต้องการเอาแพ้ชนะในเรื่องนี้ เราอยากให้ความร่วมมือ และความสัมพันธ์ของสองประเทศเดินหน้าต่อไปได้แบบไม่มาสะดุดเพราะเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะเราไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะกักขังนายวีระ และนางสาวราตรีไว้ หากทางการกัมพูชาปล่อยตัว 2 คนนี้ก็จะเป็นการแสดงถึงน้ำใจ และความปรารถนาดีต่อคนไทย โดย 2 คนนี้ก็เป็นคนไทยเช่นกัน
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งนายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้วเมื่อปลายปีก่อน ซึ่งต้องรอดูว่าทางการกัมพูชาจะมีท่าทีในเรื่องนี้อย่างไร
เมื่อถามว่า ในเอกสารขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้ง 2 ได้ยอมรับข้อหาว่ารุกล้ำดินแดนกัมพูชาแล้วหรือไม่ นายธานีกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าวว่ามีการระบุเนื้อหาว่ามีการยอมรับหรือไม่ ในการพิจารณาขอพระราชทานอภัยโทษ หรือการลดโทษ ต้องเป็นไปตามตัวบทกฎหมายของกัมพูชา ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่ระบุว่านักโทษต้องจำคุก 2 ใน 3 ของระยะเวลาที่ศาลสั่งจำคุกเสียก่อน โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้สั่งการให้นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ หารือถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือนายวีระ และ น.ส.ราตรี กับทางการกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งการขอให้มีการลดโทษ ควบคู่กับการขอพระราชทานอภัยโทษที่ต้องจำคุก 2 ใน 3 โดยที่ศาลได้สั่งจำคุกนายวีระเป็นเวลา 8 ปี ก็เท่ากับนายวีระต้องรับโทษราว 6 ปีจึงรับพระราชทานอภัยโทษได้ แต่หากระหว่างนี้สามารถขอลดโทษจำนวนปีที่ต้องจำคุก ก็มีความเป็นไปได้ที่นายวีระจะได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น