xs
xsm
sm
md
lg

เสียงจาก “เหยื่อ 10 เมษาฯ” ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ได้ยิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

ปีใหม่ไทยที่กำลังมาเยือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ดูเหมือนว่าจะมีแต่นักโทษหนีคดี ที่กระดี๊กระด๊า มีความสุขท่ามกลางเมฆหมอกทะมึนที่ครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้าเมืองไทย

10 เมษายน สองปีที่ผ่านมา เรามักได้กลิ่นซากศพจากปากเน่าเหม็นของแกนนำคนเสื้อแดง และนักโทษหนีคดี จนคละคลุ้งไปทั้งเมือง

แต่ 10 เมษายนปี 2555 ในวันที่นักโทษหนีคดีเริงร่ากับอำนาจ ผ่านน้องสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และลิ่วล้อ ดูเหมือนว่ากำลังจะสาดฟอร์มาลีนดองศพ จับยัดกลบฝังห้ามส่งกลิ่นเหม็นรังควานง่ายๆ ด้วยการเอาเงินภาษี 2,000 ล้าน ของคนไทยไปฟาดหัวศพ และคนเสื้อแดง แต่ก็เป็นเพียงตัวเลข ที่ยังขาดเม็ดเงินในบัญชี

ส่วนความเป็นธรรมไม่ต้องพูดถึง เพราะฉากแห่งโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยตลอดสามปีที่ผ่านมา ถูกเขียนบท และอำนวยการสร้างโดยนักโทษหนีคดี ที่กำลังถึงตอนจบ
ให้ผู้ร้ายใกล้จะกลายเป็นพระเอก
 

ส่วนตำรวจนอกจากไม่โผล่หัวมาให้เห็น ยังวางตนเป็นทาสรับใช้นักโทษไปเรียบร้อยโรงเรียนดูไบไปแล้ว

รอก็แต่ตัวละครที่ถูกหลอก หรือบังคับให้เล่นจะถึงจุดเดือดปะทุออกมาเขียนบทใหม่ให้แก่โรงละครประเทศไทย เปลี่ยนจากบทที่ผู้ร้ายกำลังข่มขืนย่ำยีรัฐธรรมนูญ แล้วฆาตกรรมระบบยุติธรรมไทย ที่กำลังจะเขียนกติกาให้คนผิด คนโกง กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน

แต่ถ้าความอดทนของคนไทยมีมากมายจนอดกลั้นได้ทุกเรื่อง ทนได้แม้กระทั่งการเห็นรัฐธรรมนูญถูกย่ำยี เพิกเฉยได้ ที่หัวหน้าคนปล้นชาติกำลังจะได้รับการปลดปล่อย ยอมรับได้ที่ระบบยุติธรรมจะถูกทำลาย ไม่รู้สึกรู้สาที่จะถูกอันธพาลกดหัวข่มเหง ฯลฯ

ก็เตรียมร้องเพลงรัฐไทยใหม่ แทนเพลงชาติไทย กันได้เลย

แต่ถ้าไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะร้องเพลงรัฐไทยใหม่ ไม่สมยอมที่จะปล่อยหัวหน้าโจรออกมาปล้นชาติซ้ำสอง ก็ต้องลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองด้วยสติปัญญา ตามบทบาทหน้าที่ที่พึงมีในสังคม

เอาแค่การคืนความเป็นธรรมต่อสังคมไทย ไม่ละทิ้งผู้สูญเสียให้เขาต้องต่อสู้อย่างเดียวดาย ไม่ว่าจะเป็น ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม หรือจะเป็นมารดาของ กมนเกด อัคฮาร์ด ที่ยืนหยัดด้วยหัวใจอันเด็ดเดี่ยว เพรียกหาความเป็นธรรมให้กับคนที่พวกเธอรัก

แม้ว่า เสียงของพวกเธอกำลังจะกลายเป็นเสียงที่ผู้มีอำนาจไม่ได้ยินอีกต่อไป

แต่คนในสังคมไทยที่ได้ยินเสียงของพวกเธอร้อง ช่วยกันลุกขึ้นมาทวงถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บังคับบัญชาของ พล.อ.ร่มเกล้า และแกนนำคนเสื้อแดง

คำปราศรัยของ คางคกตู่ 10 เมษายน ปีที่แล้ว ประกาศกร้าวว่า “ไม่ปรองดองกับฆาตกร” และคำปราศรัยของ รัฐมนตรีที่ได้ดี เพราะยุให้คนอื่นเผา ประกาศเป็นเสียงสะท้อนก้องไปมาด้วยถ้อยคำตอกย้ำ ซ้ำๆ นานเกือบ10 นาที ว่า “ประชาชนถูกฆ่า ประชาชนถูกยิงในเขตอภัยทาน”

พี่น้องเสื้อแดงต้องไปทวงถามคนเหล่านี้ว่า ยังหลับสบายดีอยู่หรือ ที่ปล่อยให้ นางพะเยา อัคฮาด มารดาของ กมนเกด เดินตามหาความเป็นธรรมที่กำลังจะถูกกระชากจากไปด้วยน้ำมือของคนที่พี่น้องเสื้อแดงศรัทธา

เหมือนกับพี่น้องทหารต้องไปทวงถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่ายังหลับสบายดีอยู่หรือ ในขณะที่ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ยังเดินหน้าหาความเป็นธรรมเพื่อปลอบโยนดวงวิญญาณของสามี และทหารกล้าในหลุมฝังศพ

เป็นไปได้อย่างไร ที่หัวใจของทหารหาญแห่งบูรพาพยัคฆ์ จะละทิ้งลูกน้องปล่อยให้พวกเขาตายฟรี

เป็นไปได้อย่างไร ที่หัวใจของผู้บังคับบัญชาจะนิ่งเฉยดูดาย ไม่แม้แต่จะเดินทางไปร่วมอาลัยต่อดวงวิญญาณของทหารที่พลีชีพ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

เป็นไปได้อย่างไร ที่หัวใจของทหารเสือพระราชินีที่ประกาศว่า รักชาติยิ่งชีพ เสียสละชีวิตได้เพื่อพระเจ้าแผ่นดิน จะเพิกเฉยต่อการยุติความเป็นธรรม เพื่อสร้างความยุติธรรมให้ผู้ชนะ

ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว วันที่ 10 เมษายน ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ไร้เงา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่แม้แต่ประชาชนยังไปร่วมเคารพดวงวิญญาณทหารหาญ สดุดีต่อวีรกรรมที่เขาทำเพื่อชาติ


แล้วอะไรทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้าแสดงตัว ประกาศตนเป็นทัพหน้าทวงคืนความยุติธรรมให้ลูกน้อง หรือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีพฤติกรรมไม่แตกต่างจาก “คางคกตู่” คือ พร้อมข้ามศพ เพื่อเข้าสู่โหมดปรองดอง เปิดคุกให้หัวหน้าโจรออกมาปล้นชาติอีกครั้ง

แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรอยู่ หรือขลาดเขลา หวาดกลัวเงาของตัวเองจนไม่กล้าขยับออกจากเก้าอี้
 
หรือหลงอำนาจ จนหา “มโนสำนึกไม่เจอ?”

ประเทศนี้ไม่ต้องการรถถัง ไม่ต้องการการปฏิวัติ แต่ต้องการการตื่นรู้ของคนในชาติให้ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัว ไม่ดูดายต่อความทุกข์ทรมานของเพื่อนร่วมชาติ

ที่สำคัญต้องไม่ก้าวข้ามศพ เพื่อให้หัวหน้าโจรพ้นคุกมาปล้นชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น