ผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือยื่นประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี เตือนมี 3 ประเด็นในร่างแก้ไขัฐธรรมนูญ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ระบุบอกไปแล้วถ้ายังทำเฉยต้องยอมรับผลที่จะตามมา
วันนี้ (10 เม.ย.) นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือถึงประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของคณะกรรมการที่ปรึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่มีนายนรนิต เศรษฐบุตร เป็นประธาน เพื่อเสนอแนะเกี่ยวกับยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ไม่ให้เกิดปัญหาขัดรัฐธรรมนูญขึ้นในอนาคตรวม 3 ประเด็น
1. กรณีผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการรัฐธรรมนูญใหม่ เห็นควรเสนอให้แก้ไขจากที่ร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน 2. กรณีที่กำหนดให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองหรือรูปแบบรัฐหรือไม่ เห็นควรเสนอให้แก้ไขเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 3. กรณีประชาชนลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญแล้วให้ประธานรัฐสภานำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศให้รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ โดยไม่จำเป็นต้องนำรัฐธรรมนูญมาตรา 150 และ 151 ที่บัญญัติเกี่ยวกับการใช้เสียง 2 ใน 3 ของรัฐสภายืนยันร่างกฎหมายกรณีพระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจยับยั้งมาบัญญัติไว้
นายศรีราชากล่าวว่า ข้อเสนอแนะดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติไปตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 244 (3) ให้อำนาจไว้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อกังวลที่เกรงว่าหากไม่มีการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญตามที่มีการเสนอก็อาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังได้
“ผู้ตรวจการฯ เสนอไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องจะพิจารณาว่าจะแก้ไขตามที่เสนอหรือไม่ เราเพียงแต่เป็นจิ้งจกที่ทักเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปบีบบังคับ ขู่เข็ญ ถ้าเราท้วงแล้วเขาไม่ทำ ผลที่จะตามมาเป็นอย่างไรเขาก็ต้องยอมรับ แต่คิดว่าผู้ตรวจการเป็นองค์กรที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยตรง ไม่ใช่คนหนึ่งคนใดที่มีส่วนได้เสีย ข้อเสนอก็น่าจะได้รับการยอมรับ” นายศรีราชากล่าว