“เป็ดเหลิม” ท้า ปชป.เปิดภาพ “แม้ว” กอดแกนนำโจรพูโล หยันอย่ากล่าวหาลอยๆ บูรณาการด้านการข่าว บก.ส่วนหลังขอตัว ส.ส.ปชป.ใต้ร่วมวงถก แต่ไม่ขอลงพื้นที่ อ้างเสียกำลังมาคอยอารักขา โวดับไฟใต้เหมือน “โอบามา” ถล่ม “บิน ลาดิน”
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) จะมีการประชุมเพื่อวางแนวทางใหม่ โดยจะย้ายศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ หรือ บก.ส่วนหลัง ให้หน่วยข่าวทั้งหมดร่วมประชุม เพื่อสนับสนุนในด้านการข่าว ส่วนการทำงานของหน่วยงานอื่นนั้นตนไม่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานในภาคใต้ทุกวันนี้เหมือนเล่นหมากรุกแล้วมองในกระดานไม่ออก แต่คนนอกกระดานเห็น ตนจึงได้สั่งการให้ไปตรวจสอบรถยนต์และจักรยานยนต์ที่หายในพื้นที่ และติดตามใกล้ชิดว่าเหตุการณ์เกิดที่ไหน ให้ดูแลพิเศษ ตั้งด่านตรวจให้มากขึ้น พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชนรับทราบ
“เดิมทีผมมีการประชุมหน่วยข่าวเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แต่จะมีการยกระดับการประชุมขึ้น โดยใช้พื้นที่ที่ชั้น 20 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมีห้องประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ สามารถประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานในพื้นที่ได้ทั้งหมด” ร.ต.อ.เฉลิมระบุ
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า หากจัดตั้ง บก.ส่วนหลังก็เตรียมเชิญ ส.ส.ภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาร่วมประชุมด้วย ทั้งนายถาวร เสนเนียม นายสุรเชษฐ แวอาแซ เพราะคนเหล่านี้มีข้อมูลที่ดีกว่าตน รวมไปถึงตำรวจที่อยู่ในพื้นที่มานานอย่าง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา เป็นต้น มาร่วมให้ข้อมูลด้วย สำหรับการแก้ปัญหานั้นตนคงไม่ลงไปในพื้นที่ เพราะหากตนลงพื้นที่ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ 500 คนเป็นอย่างน้อยที่ต้องมาดูแล ทั้งการอารักขาต่างๆ
“(บารัค) โอบามา อยู่เพนตากอนยังถล่มบิน ลาดินแหลกคามือที่ปากีสถาน แล้วทำไมเราต้องลงไปด้วย” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้เตือนว่าอาจจะมีคาร์บอมบ์ใน 3-4 จังหวัดภาคใต้ แต่ ป.ป.ส.ไม่ได้เชื่อมข้อมูลกับตำรวจจนเกิดเหตุขึ้น ตนจึงเข้ามาบูรณาการด้านการข่าวกับงานในส่วนของตำรวจเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เมื่อทราบข่าวต้องแจ้งให้ท้องที่รับทราบด้วย
ส่วนกรณีเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ จ.สงขลา และ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รถยนต์ที่ก่อเหตุได้ผ่านเข้าด่านตรวจที่ จ.ปัตตานีมาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ตรวจเฉพาะที่กระโปรงหลัง ไม่ได้ตรวจในตัวรถ ซึ่งคนร้ายเก็บระเบิดไว้ที่เบาะหลัง ก็กำชับว่าต่อไปนี้ต้องตรวจโดยละเอียด อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่เป็นหนอนบ่อนไส้อย่างแน่นอนการก่อเหตุความรุนแรงนั้นถือเป็นความคิดของคนบางกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน รวมไปถึงกลุ่มผลประโยชน์บ้างเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการเจรจากับผู้ก่อเหตุในพื้นที่ รองนายกฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง พร้อมกล่าวว่าหากวันใดนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รับผิดชอบโดยตรงจะให้ความเห็นได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีรายชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ทั้งหมดอยู่แล้ว หน่วยข่าวก็ทราบตัวแกนนำทั้งหมด
ร.ต.อ.เฉลิมยังได้ปฏิเสธกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่ามีภาพถ่ายการเจรจาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ โดยกล่าวยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน พร้อมท้าให้พรรคประชาธิปัตย์นำออกมาเปิดเผย
“เห็นบอกว่ามีรูปถ่ายกอดกับพูโลกลมดิก ผมบอกว่าไม่มีก็ไม่เชื่อ มาหาว่าปกป้องกัน แล้วจริงๆ มีไหม มีแล้วเก็บไว้ทำไม เอาออกมาสิ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว