ผ่าประเด็นร้อน
แม้ว่าเรื่องสำคัญที่ ทักษิณ ชินวัตร หมายมั่นปั้นมือเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเตรียมการสำหรับการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมให้ตัวเอง กำลังเดินไปตามขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้ ไม่ได้ล่าช้าเกินไปนัก เพราะมีการขยายเวลาสมัยประชุมสภานิติบัญญัติออกไปแบบไม่มีกำหนดไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว
แต่ขณะเดียวกัน กลับมีเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลว ความไม่เอาไหนของรัฐบาลน้องสาวตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาให้เห็นจนสังคมส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกได้ ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
ล่าสุดก็เห็นจะเป็นเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตอนนี้ได้บานปลายรุนแรง จนสร้างความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและขวัญกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนอย่างไม่น่าเชื่อ และกลายเป็นว่า ความล้มเหลวดังกล่าวก็มี ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปแทรกแซงและชี้นำอีกเช่นเคย ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ล้วนมาจากความ “ไม่รู้” และการแก้ปัญหาอย่างฉาบฉวย “สร้างภาพ” จนทำให้ทุกอย่างกำลังลุกลามจนยากแก่การแก้ไขเยียวยา ในเวลานี้นั่นแหละ
ข่าว ทักษิณ แอบไปเจรจาลับกับ “หัวโจกโจรใต้” กลุ่มหนึ่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และต่อมาก็มีข่าวที่ได้รับการเปิดเผยจาก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ทำนองยอมรับว่า เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นำทีมไปเจรจากับหัวโจกโจรใต้เช่นเดียวกัน โดยมีผู้บริหารของธนาคารอิสลามร่วมทีมไปในคราวนี้ด้วย โดยมีการยอมรับและอ้างว่าเป็นการเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มคนไทยที่เข้าไปประกอบธุรกิจที่นั่น หรือที่รู้จักกันเรียกกันว่า กลุ่ม “ต้มยำกุ้ง”
หากพิจารณาตามสายตาแล้ว งานนี้มีการเข้าไปพูดคุยกันจริง โดยมีการเสนอความช่วยเหลือเรื่อง “เงินกู้” ให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเหล่านี้ หากยอมวางอาวุธ และออกมาในลักษณะ “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” ในอดีต และที่ผ่านมาก็มีหลักฐานเป็นรูปถ่ายปรากฏออกมาให้เห็น แม้จะมีการปฏิเสธว่า ไม่ใช่เป็นการเจรจากับโจรใต้ เป็นเพียงการเข้าไปช่วยเหลือคนไทย ที่ประสบปัญหาในมาเลเซียเท่านั้น ลักษณะออกมาในโทนไม่เป็นทางการ แต่ความหมายก็คือ เจรจานั่นแหละ
แต่สำหรับคนที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนใต้ และคนในพื้นที่ย่อมรู้ดีว่า “กลุ่มต้มยำกุ้ง” ดังกล่าวว่า มีความหมายเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้มีไม่น้อยที่ถือ “สองสัญชาติ” และก็มีการกล่าวหาจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ทำนองว่า เมื่อก่อเหตุในประเทศไทยแล้วก็มักหลบเข้าไปกบดานที่นั่น
อย่างไรก็ดี ถ้าย้อนกลับไปไม่นานนักในช่วงที่มีข่าวเรื่องเจรจากับหัวโจกโจรใต้ นั้นก็มีการให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีไม่เห็นด้วย และไม่พอใจจาก ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำนองว่า กลุ่มโจรที่เคลื่อนไหวก่อการร้ายในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น มีอยู่หลายกลุ่ม ดังนั้นความหมายที่ต้องการสื่อให้เห็นก็คือ การเจรจาที่เกิดขึ้น เป็นการเจรจาผิดตัว ไร้ประโยชน์ หรือแม้ว่าจะถูกตัวก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ไม่เอาด้วย ก็ยังก่อเหตุอยู่
ขณะเดียวกัน เมื่อฟังจากคำพูดของทางฝั่งฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ระดับพื้นที่อดีตรัฐมนตรีส่วนหน้าที่เคยทำหน้าที่ประสานงานในพื้นที่อย่าง ถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส.ยะลา ประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ก็ส่งเสียงดังทำนองว่า มีหลักฐานและข้อมูลชัดว่า ทักษิณ เข้ามาแทรกแซง เจ้ากี้เจ้าการในการเจรจากับโจรใต้ แต่เป็นลักษณะที่ออกมาแบบ “ผิดคน” หรือประเภทที่หมดความหมาย เป็นพวก “รุ่นเก่า” ไปแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิด ทำให้มีโจรกลุ่มอื่นแสดงพลัง ทั้งที่หาดใหญ่ และยะลา จนเกิดความเสียหายอย่างที่เห็น
สะท้อนถึงการอ่อนหัด สร้างภาพจนติดเป็นนิสัย
ด้วยข้อกล่าวหา และความเสียหายที่เกิดขึ้น ข่าวคราวดังกล่าวทำให้ ทักษิณ เสียเครดิตเกิดภาพลบทางการเมือง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาต้องรีบออกมาปฏิเสธพัลวันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้เจรจากับกลุ่มโจรก่อการร้าย และด้วยอารมณ์โกรธต่อข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็มาในมุกเดิมๆ แบบเล่นลิ้น ทำนองว่าเขาเป็นแค่ “คนตกงาน” ไม่ได้มีบทบาทอะไรในรัฐบาล
ทั้งที่ในความเป็นจริง แม้จะไม่มีงานทำ แต่ก็ยังร่ำรวย และไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวก็แล้วกัน
อย่างไรก็ดี นั่นเพียงแค่คำแก้ตัวที่ทำให้ดูขำๆ เพื่อกลบเกลื่อน แต่ในความเป็นจริงสังคมก็ย่อมรู้กันดีอยู่แล้วว่า ทักษิณ เป็นทุกอย่างของรัฐบาลชุดนี้ และหากพิจารณาจากคำพูดที่ออกมา เขาก็ยังสนับสนุนให้เจรจากับหัวโจกโจรใต้
แต่ปัญหาก็คือจะไปเจรจากับใคร มีโจรก่อการร้ายกลุ่มไหนบ้างที่แสดงตัวออกมาให้เห็น เพราะจนถึงทุกวันนี้ ทางการยังเหมือนกับว่ายังไม่รู้จักตัวตน หรือองค์กรใต้ดิน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการแสดงความรับผิดชอบ แต่หากกล่าวเฉพาะกรณีทักษิณ มันก็แสดงให้เห็นว่า ทุกเรื่องที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องและชี้นำ มันก็ปั่นป่วน ฉิบหายทุกที
เพราะกลายเป็นว่าทุกเรื่องที่เขาอยู่เบื้องหลัง ในฐานะ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ล้มเหลวทุกเรื่อง เวลานี้ลองให้ตอบมาสักเรื่องสิว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาลมีอะไรสำเร็จบ้าง ตรงกันข้าม มีแต่แพงทั้งแผ่นดิน แต่ชาวนาชาวไร่กลับขายผลผลิตได้ตกต่ำ ส่งน้องสาวมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็สร้างความอับอายไปทั่ว
ล่าสุด ขนาดตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารของมาเลเซียที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับเข้าใจผิดเรียกเป็นประธานาธิบดีเสียอีก
ดังนั้น ถ้าให้สรุปนาทีนี้ก็ต้องย้ำให้เห็นภาพอีกครั้งก็ได้ ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผลงานของรัฐบาลทุกเรื่องล้วนแล้วแต่มาจากต้นตอ คือ ทักษิณ คนเดียว เพราะล้วนแล้วเกิดจากความฉาบฉวย ใช้การตลาดเพื่อสร้างภาพความสำเร็จ หวังผลทางการเมือง
แต่คราวนี้คนที่เป็นตัวแทนคนนำไปปฏิบัติ ยิ่งห่วยแตก มันก็ยิ่งประจานความล้มเหลวได้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง!!