เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 จากเหตุการณ์ระเบิดถล่มเมืองทั้ง คาร์บอมบ์กลางเมืองยะลา และที่ห้างลีการ์เดน พลาซ่า ทั้งเป็นทั้งห้างและโรงแรมหรูหราเป็นอาคารสูง 33 ชั้น เป็นสัญลักษณ์ในย่านเศรษฐกิจของเมืองหาดใหญ่และภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อตอนบ่ายวันที่ 31 มี.ค.ทำให้มีคนเสียชีวิตกว่าสิบราย และบาดเจ็บรวมกันกว่า 300 คน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจมากขึ้นอีกเพราะยังมีบางคนที่บาดเจ็บเข้าขั้นโคมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ต้องพูดถึงกันแล้วว่าจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของคนในพื้นที่ หรือแม้แต่คนไทยทั่วไปที่ได้ยินข่าวแบบนี้ออกมา โดยเฉพาะในพื้นที่หาดใหญ่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ไม่อยากกล่าว เพราะเหมือนเป็นการซ้ำเติมให้เลวร้ายและหดหูเพิ่มมากขึ้นไปอีก
00 หาดใหญ่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลย์ สิงคโปร์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่โรงแรมลีการ์เดน มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์ดับไป 1 รายส่วนที่บาดเจ็บนั้นไม่ต้องพูดถึง ล้วนแล้วแต่อกสั่นขวัญเสีย เหตุการณ์ลอบวางระเบิดสะท้อนให้เห็นว่าเวลานี้คนร้ายสามารถรุกเข้ามาก่อเหตุในเมือง ย่านเศรษฐกิจกินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ จากเดิมเราจะได้ยินข่าวจำกัดแค่ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี แม้ว่าในระยะหลังก็เข้ามาในย่านเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ แต่การเข้ามาถึงใจกลางเมืองหาดใหญ่คราวนี้ถือว่าน่าวิตก เพราะไม่ธรรมดาแล้ว
00 หากย้อนกลับไป เหมือนกับการบังเอิญว่า “ทั้งพี่ทั้งน้อง” ได้ทำลายภาคใต้จนย่อยยับ จากยุค ทักษิณ ชินวัตร ก็เกิดเหตุ “ปล้นค่ายทหาร” กองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ม.ค.47 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแก้ปัญหาโจรใต้แบบใช้การตลาด “ขี้โม้แอ็กอาร์ต” นำหน้า เหมือนกับการทำสงครามยาเสพติดแบบเหวี่ยงแหเป็นข่าวสร้างคะแนนเสียง แต่สำหรับชายแดนใต้ที่ “อ่อนไหว” ซับซ้อน ยิ่งมาเจอคำว่า “โจรกระจอก” เข้าไปอีก มันก็พิสูจน์ให้เห็นเป็นตรงกันข้าม กลายเป็น ทักษิณ นั่นแหละ “โคตรกระจอก” ยิ่งกว่า และจากนั้นก็ “เละ” มาจนถึงทุกวันนี้
00 มาถึงยุค “ปูนิ่ม” ผ่านมา 7-8 เดือนยิ่งเลวร้ายสุดๆ เพราะนอกจากเธอจะเป็นได้แค่ “พริตตี้” ที่แต่งตัวเฉิดฉายไปโชว์ตามงานอีเว้นท์แล้ว นอกนั้น “ห่วยแตก” ชนิดที่หาคำมาบรรยายเปรียบเทียบไม่ได้เลย ไม่เคยมีการมอบนโยบาย ไม่มีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ให้กับฝ่ายความมั่นคงในฐานะที่ตัวเองเป็น ผอ.กอ.รมน.โดยตำแหน่ง อีกทั้งไม่เคยเยื้องกรายลงไปในพื้นที่แม้แต่ครั้งเดียวหลังจากถูก “เชิด” เป็นนายกฯ และในที่สุดก็เกิดเหตุบอมบ์กลางเมืองหาดใหญ่จนพินาศยับในยุคนี้ซ้ำเติมเข้าไปอีก หากจะลำดับย้อนอดีตจนถึงปัจจุบัน จาก “พี่มาถึงน้อง” นาทีนี้ไม่รู้ว่าเคยจะเป็นคนสร้างความ “ฉิบหาย” ได้มากกว่ากัน !!
00 แต่ถ้าเรียบเรียงความหายนะพิจารณาจากวันเวลานับว่า น้องปูนิ่ม กำลังมาแรง เพราะขณะที่เพิ่งนั่งเก้าอี้นายกฯได้เพียงไม่กี่เดือนก็เกิด “น้ำท่วม” ครั้งร้ายแรงในประวัติศาสตร์ ขนาดเอาเป็นว่าท่วมดอนเมืองก็แล้วกัน ราคาน้ำมัน ราคาข้าวของพุ่งกระฉูดแบบที่คนเสื้อแดงด้วยกันที่พอมีปัญญาหน้ามืดตาค้างกันเลยทีเดียว และล่าสุดเหตุร้ายในชายแดนใต้ที่พิจารณาจากแนวโน้มแล้วกำลังเข้าสู่ “มิคสัญญี” เข้าไปทุกทีแล้ว หากยังมีนายกฯประเภทนี้อยู่ต่อไป เพราะนี่มัน “นารีพาลงเหวชัดๆ” เวรกรรมจริงๆ !!
00 ขณะเดียวกันฝ่ายที่ต้องร่วมรับผิดชอบกับความล้มเหลว ไม่อาจระงับยับยั้งบรรเทาเบาบางลงได้เลย ต้องไล่เรียงลงไปตั้งแต่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ที่รับตำแหน่งต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต.รายนี้ยิ่งปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นสายตรงเด็กในบ้านของ ทักษิณ แถมยังสนิทกับนายกฯปูเป็นการเฉพาะอีกตอนแรกคงหวังว่าจะส่งเข้าไป “คาน”ใช้คนกันเองลงไป คนพวกนี้ต้องร่วมกันรับผิดชอบ เพราะ “ห่วยพอกัน” ที่ผ่านมาสถานการณ์เลวร้ายลงทุกวัน ไม่ได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเลย แม้จะอ้างสถิติจำนวนก่อเหตุลดลง แต่จะมีความหมายอะไร แม้ว่าหากเกิดเพียงปีละครั้งสองครั้งแต่ความเสียหายใหญ่หลวงสุดคณานับดังกล่าวมันก็เอาไปเปรียบเทียบนำมาสร้างผลงานไม่ได้ !!