“สวนดุสิตโพล” เผยชาวบ้าน 20 จังหวัด ร้อยละ 45.55 ชี้ปรองดองแนวคิดดี ร้อยละ 42.05 เชื่อผลประโยชน์การเมืองทำชาติขัดแย้ง ร้อยละ 39.06 หยัน กมธ.วิฯ ปรองดอง ทำไม่สำเร็จแน่ ร้อยละ 53.29 หนุนหันหน้าหากัน มีสติ ให้อภัย ไม่ใช้อารมณ์แก้ และร้อยละ 30.37 ชูคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน
วันนี้ (1 เม.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สอบถามความคิดเห็นของประชาชน 20 จังหวัดที่เป็นตัวแทนภูมิภาคจำนวน 2,184 คน ถึงการสร้างความปรองดอง สรุปว่า ความคิดเห็นของประชาชนกับแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอยู่ในขณะนี้ 45.55% เป็นแนวคิดที่ดีที่จะทำให้สังคมเกิดความสงบสุข คนในชาติปรองดอง สามัคคี แต่จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความตั้งใจดีจากทุกฝ่าย 35.49% คงเป็นไปได้ยาก หากนักการเมืองยังแตกแยก ทะเลาะกันอยู่เหมือนกับที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ 9.73% เป็นเกมการเมือง เป็นการสร้างภาพของนักการเมือง 4.94% แนวทางการสร้างความปรองดองครั้งนี้ควรจะดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และยึดหลักฐาน ข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ และ 4.29% เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ควรแก้ที่ตัวนักการเมืองซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหา
ขณะที่สาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ ประชาชนคิดว่ามาจากอะไร 42.05% ความต้องการอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง 31.03%ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน การแบ่งพรรคแบ่งพวก การใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล 13.80% การรับฟังข้อมูลต่างๆแค่ด้านเดียวหรือทางเดียว/การถูกครอบงำทางความคิดจากสื่อหรือตัวบุคคล 9.35% นักการเมือง พฤติกรรมของนักการเมือง และ 3.77% ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในด้านฐานะความเป็นอยู่และระดับการศึกษา เป็นต้น
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าการสร้างความปรองดอง โดย คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาง การสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน จะสำเร็จหรือไม่ 39.06% ไม่สำเร็จ เพราะหากทุกฝ่ายยังไม่เปิดใจยอมรับอย่างแท้จริง, ต่างฝ่ายต่างมุ่งที่จะเอาชนะคะคานกัน, เป็นแค่เกมการเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมา ฯลฯ 37.22% คงจะไม่สำเร็จ เพราะนักการเมือง อำนาจและผลประโยชน์เป็นต้นเหตุสำคัญของการแตกแยก, มัวแต่นึกถึงตนเองเป็นสำคัญ ฯลฯ 19.62% น่าจะสำเร็จ เพราะ ดูจากความตั้งใจและแนวทางในการแก้ไขปัญหา, เป็นสิ่งที่คนในสังคมอยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้นโดยเร็ว ฯลฯ และ 4.10% สำเร็จ เพราะเชื่อมั่นในตัว พล.อ.สนธิ, หากทุกฝ่ายมีจิตสำนึกและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ฯลฯ
ส่วนวิธีการสร้างความปรองดองในทัศนะของประชาชน 53.29% การหันหน้าเข้าหากัน รู้จักให้อภัย มีสติ ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา 15.38% การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความสามัคคี ปรองดองตั้งแต่วัยเยาว์ 14.82% มีความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รู้จักคิด วิเคราะห์และตัดสินใจ 10.76% การเคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม และ 5.75% สื่อมวลชนจะต้องไม่นำเสนอข่าวสารที่นำมาซึ่งความแตกแยก นำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์
เมื่อถามว่า ใคร หรือหน่วยงานใดที่ประชาชนคาดหวังว่าจะเข้ามาช่วยสร้างความปรองดองได้ 30.37% ประชาชน คนไทยทุกคน 29.75% ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 15.96% ผู้ที่สังคมเชื่อถือ 14.54% รัฐบาลและนักการเมือง และ 9.38% กระทรวงที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น