xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกฯ ชี้ปรองดองต้องใช้เวลา มีคนกลางระดมแนวคิดให้ตกผลึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา (แฟ้มภาพ)
“ยุทธศักดิ์” ระบุปรองดอง ต้องใช้เวลา มีคนกลางนำความคิดแต่ละฝ่ายมารวมกัน แนะทุกฝ่ายหันหน้าคุยเพื่อประโยชน์ของประเทศ ยันทหารนิ่ง ปล่อยการเมืองว่ากันไป เผย “สนธิ” เป็นคนอดทน รับได้แม้ถูกรุม

วันนี้ (28 มี.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนฯ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน ซึ่งจะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งว่า ส่วนตัวคิดว่าถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและพูดจากันโดยมีจุดมุ่งหมายดียวกัน คือเพื่อชาติและอนาคตของประเทศ อะไรที่เป็นข้อขัดแย้งกันอยู่อยากให้ค่อยๆ พูดกัน

“เรื่องความปรองดองเป็นเรื่องที่จะทำให้เสร็จภายในเดี๋ยวนี้พรุ่งนี้ไม่ได้ ต้องใช้เวลาพอประมาณ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจากความที่เราแตกแยกกันอยู่ มันเป็นบาดแผลที่ค่อนข้างลึก เพราะฉะนั้นการสมานแผลหรือการรักษาแผลให้หายเป็นปกติ หรือการรักษาความรู้สึกที่ดีนั้นมันต้องใช้เวลา และการจะใช้เวลานั้นก็ต้องมีการพูดคุยเจรจากัน ค่อยๆ ทำไป หนทางอะไรที่ดีที่มีใครเสนอมาก็ต้องดูว่าเป็นประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นประโยชน์ก็นำมาทำ เพราะมีความมุ่งหมายเดียวกันอยู่แล้ว และทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้น เพียงแต่อาจจะต้องใช้ความพยายามหน่อย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วง พล.อ.สนธิหรือไม่ ในฐานะที่เป็นรุ่นน้องในกองทัพ ที่เมื่อวานโดนหนัก รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงหรอก ตนเคยทำงานและอบรมร่วมกับ พล.อ.สนธิมา ก็เห็นว่าท่านเป็น พล.อ.สนธิมีความอดทน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นการกระทบทางความรู้สึกและทางใจมากกว่า เดี๋ยวก็ดึงกลับมาได้ไม่เป็นอะไร

ต่อข้อถามว่า เมื่อฝ่ายค้านไม่เอาด้วยแล้วจะปรองดองได้อย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าถึงวันนึงถ้าเราพูดถึงผลประโยชน์ของประเทศร่วมกันและค่อยๆ คุยกันว่าไม่เอาด้วยตรงไหน ถ้ามีการพูดจาหรือพบปะกัน ต่างฝ่ายต่างใช้ไมตรีจิตด้วยกันก็เชื่อว่าจะดีขึ้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานดูแล้วท่าทางจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวก็ยังคิดว่าในอนาคตถ้าทุกฝ่ายมีความคิดเห็นที่ตรงกันก็มีหนทางที่จะเกิดความปรองดองได้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องทำ เรื่องความปรองดองเราทิ้งไม่ได้ และถ้าเราไม่ปรองดองกันประเทศอื่นจะมองประเทศไทยอย่างไร ประเทศไทยก็จะล้าหลังกลุ่มประเทศในอาเซียน ซึ่งอีก 2 ปีกว่าประเทศไทยก็จะเป็นชาติอาเซียนแล้ว และเราควรจะเป็นผู้นำ แต่ความไม่ปรองดองกันจะทำให้ประเทศไทยเกิดความล้าหลัง ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมองภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ถ้าทุกคนรักชาติรักประเทศต้องเสียสละความเป็นอัตลักษณ์หรือความคิดส่วนตัวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนี้อย่างนี้คงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยในกองทัพหรือไม่ ว่าทหารเอาด้วยกับแนวคิดของพล.อ.สนธิหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยัง ทหารยังไม่ได้พูดอะไร ยังเฉยๆ อยู่ ดูเรื่องของการเมืองไปก่อน ซึ่งเมื่อวานตนก็ยังได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หลังจากที่ ผบ.ทบ.ได้คุยกับสื่อและฝ่ายการเมืองต่างๆ ผบ.ทบ.ก็บอกว่าไม่ได้พูดอะไรมากในเรื่องของการเมือง ท่านดูในเรื่องของความมั่นคงต่อไป ก็ปล่อยให้ทางการเมืองว่ากันไป แต่อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.ก็อยากเห็นความรักความปรองดอง ความก้าวหน้าของประเทศชาติ

ส่วนรายงานของคณะกรรมาธิการ ซึ่งคนยังสงสัยว่าจะสร้างความปรองดองได้จริงหรือไม่ ในฐานะที่ท่านเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยถอนรายงานอันนี้ออกมาก่อน เพื่อพูดคุยกันก่อน และเมื่อปรองดองแล้วค่อยเสนอไปใหม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยถึงเรื่องนี้เลย แต่ส่วนตัวมองว่าเรื่องความปรองดองมันต้องใช้ความนุ่มนวล ความอดทน และต้องใช้เวลา ไม่ใช่พูดกันวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะเกิดการปรองดอง

ต่อข้อถามว่า มองหรือไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ เพราะ พล.อ.สนธิเคยเอาปืนไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกไป แต่ตอนนี้กลับมาทอดไมตรีให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่า พล.อ.สนธิจะคิดถึงขนาดนั้น แต่คิดว่า พล.อ.สนธิคงจะคิดในภาพที่ว่าการอยู่ร่วมกันของความปรองดองของคนในชาติเสียก่อน ก่อนที่จะถึงขั้นนั้น เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านคิดว่า พล.อ.สนธิไม่มีเจตนาที่จะไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า คิดว่านั้นหน้าจะเป็นก้าวต่อไป แต่ขั้นตอนนี้เพียงให้เกิดความปรองดองรักใคร่กันมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตราบใดที่ต่างฝ่ายต่างจะค้นหาความจริง ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนถึงบอกว่ามันต้องพูดคุยกัน และต้องพูดกันนอกรอบด้วยว่าจะเอาอย่างไรกัน เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีคนประสานหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้เขามีคนประสานแล้ว น่าจะต้องมีคนประสานแน่นอน มันต้องมีตัวกลางเพื่อนำความคิดทั้งขวาทั้งซ้ายมารวมกัน ส่วนจะเป็นใครตนไม่ทราบ
กำลังโหลดความคิดเห็น