“จตุพร” ระบุ ปชป.ไม่รับปรองดอง หวังให้เกิดสงครามกลางเมือง ขู่เตรียมแผนให้ นายกฯ นำประเทศเข้าภาคีศาลโลก หวังดึง “มาร์ค-เทพเทือก” เข้าสู่กระบวนการศาลโลก ฐานสั่งฆ่าประชาชน พร้อมถาม “ป๋าเปรม” กล้าเปิดโอกาสให้ “นช.แม้ว” พูดคุยแก้ปมขัดแย้งหรือไม่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เรียกร้องให้รัฐบาลถอนผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนฯ เพราะอาจเกิดความรุนแรงมากกว่าปี 2553 นั้น ตนอยากถามว่า ที่รุนแรงกว่านั้น คือ สงครามกลางเมืองใช่หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำการปลุกระดมประชาชนโดยเฉพาะภาคใต้ อีกทั้งมีพฤติกรรมเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ทั้งกรณีรายงานของสถาบันพระปกเกล้า และรายงานของคณะกรรมาธิการฯปรองดอง จนบรรยากาศในการประชุมรัฐสภาไม่สงบ ทำให้ ส.ว.บางท่านไม่พอใจ จนลงมติสวนทางกับพรรคประชาธิปัตย์หลายคน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็จะทนให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ขั้นตอนคดีความ 91 ศพ กำลังใกล้ตัดสิน รวมทั้งศาลโลกที่กำลังตัดสินคดีพิพาทพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เพราะสุ่มเสี่ยงทำให้ไทยเสียดินแดน และพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เรื่องดังกล่าวล้มรัฐบาล โดยเฉพาะการแสดงตนของพรรคประชาธิปัตย์ และการขับเคลื่อนของ ส.ส.ภาคใต้ที่ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกันก่อนการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย.49 ซึ่งรัฐบาลไม่ห่วงเรื่องดังกล่าว เพราะลำพังน้ำยาพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ หากกองทัพไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว
นอกจากนี้ ตนจะเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำประเทศไทยเข้าเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยขณะนี้มีการดำเนินการฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฐานสังฆ่าประชาชน โดยจะใช้ช่องทางเรื่องการถือครองสัญชาติอังกฤษ ของ นายอภิสิทธิ์ หากเข้าร่วมแล้ว ผู้มี่ส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็สามารถยื่นเรื่องไปสมทบในการพิจารณาของศาลโลกได้
อย่างไรก็ตาม ตนอยากเตือนพรรคประชาธิปัตย์ ที่แสดงท่าทีไม่เหมาะสมต่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ.ปรองดอง และสถาบันพระปกเกล้า เพราะอย่าลืมว่า ถ้าไม่มี พล.อ.สนธิ ชาตินี้ นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะผลพวงจากการยึดอำนาจ แต่เมื่อ พล.อ.สนธิ หมดประโยชน์ก็แสดงอาการเป็น ส.ส.แว้น และผู้นำฝ่ายค้านแว้น อะไรก็วอล์กเอาต์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามอดทนในเรื่องดังกล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนการเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เจรจาเพื่อยุติปัญหาประเทศนั้น ตนสนับสนุน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ พล.อ.เปรม ที่มีความอาวุโสกว่าจะเปิดโอกาสหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอาวุโสน้อยกว่า ก็พร้อมพูดคุย เพื่อหยุดการศูนย์เสียของประเทศอีกต่อไป หากหาคนกลางมาเป็นตัวประสานได้ ถือเป็นเรื่องดี แต่ยอมรับว่ายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
นายจุตพร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 30 มี.ค.ตนจะเดินทางไปประเทศลาวในช่วงเช้า และช่วงเย็นจะไปประเทศกัมพูชา เพื่อเจรจากับทางการในการขอใช้พื้นที่ ในการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ รดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมทั้งจะมีการประสานงานเรื่องอาหาร ความปลอดภัย และการจราจร เพราะคาดว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวประเทศละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน โดยผลการเจรจาผลออกมาเป็นอย่างไร จะกลับแถลงในวันที่ 2 เม.ย. ให้ทราบต่อไป
