ส.ส.อันดามัน ปชป. เรียงหน้าสับ ครม.สัญจรสร้างภาพ ทุ่มงบ 8.4 หมื่นล้าน ตบตา ปชช. แฉที่แท้อนุมัติงบกว่า 600 ล้าน ใน 23 โครงการ โวย 2 มาตรฐานแบ่งแยกพื้นที่พัฒนา ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทำรายได้เข้าประเทศอันดับหนึ่ง
วันนี้ (29 มี.ค.) กลุ่มตัวแทน ส.ส.จังหวัดชายฝั่งอันดามัน พรรคประชาธิปัตย์ 5 จังหวัด นำโดยนางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงชี้แจงถึงการตรวจสอบผลของการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 19-20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนางอัญชลี กล่าวว่า หลังการประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ที่จ.ภูเก็ต มีการออกข่าวผ่านสื่อมวลชนว่ามีการอนุมัติโครงการต่างๆ ไปมากถึง 117 โครงการในวงเงินงบประมาณ 8,4136 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าการอนุมัติงบเพื่อการพัฒนาเมื่อเทียบกับครม.สัญจรที่ภาคเหนือและอีสานอยู่แล้ว แต่เมื่อกลุ่ม ส.ส.จังหวัดชายฝั่งอันดามันตรวจสอบแล้วพบว่ามีการอนุมัติโครงการตามที่จังหวัดภาคใต้เสนอไปหลายร้อยโครงการแค่ 23 โครงการ เป็นเม็ดเงินงบประมาณเพียง 628 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อว่ามีการอนุมัติงบจำนวนหลายหมื่นล้านบาทให้สังคมเข้าใจสับสน เช่น โครงการที่ขอสร้างหอประชุมจังหวัดเพื่อรองรับการที่ไทยเข้าเป็นประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือรถไฟฟ้ารางเบาที่มีการสำรวจเส้นทางโครงสร้างทั้งหมดแล้ว ใช้งบประมาณเพียง 2 หมื่นล้าน ก็ไม่มีการอนุมติให้
ขณะที่ นายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ จ.ภูเก็ตได้ตั้งโครงการเพื่อขออนุมัติโครงการในการพัฒนาจังหวัดไว้ 67 โครงการ แต่ ครม.สัญจรได้อนุมัติแค่ 6 โครงการ เป็นจำนวนเพียง 113 ล้านบาท ทั้งที่เป็นจังหวัดที่ดึงดูดเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้าประเทศเมื่อปี 2554 ถึง 1.8 แสนล้านบาท รองจาก กทม.เท่านั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เกาะนาคา และเกาะมะพร้าว ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอถลาง แต่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งที่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครม.ได้มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมภาคขยายการบริการไฟฟ้าเข้าสู่เกาะทั้งสอง จนถึงเวลานี้ยังไม่มีการปฏิบัติแต่อย่างใด
ด้าน นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนจังหวัดพังงานมีการเสนอโครงการไป 13 โครงการ แต่ ครม.อนุมัติแค่ 3 โครงการ วงเงิน 108 ล้านบาท โดยเฉพาะชาวบ้านเกาะปันหยี และเกาะพระทอง ที่ต้องการไฟฟ้าเข้าสู่เกาะก็ไม่ได้รับการดูแล แม้สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะมีมติ ครม.ให้ กฟภ.ดำเนินการขยายไฟฟ้าไปสู่พื้นที่เกาะดังกล่าว จึงขอให้รัฐบาลนี้มีความจริงใจในการพึฒนาคุณภาพชีวติของประชาชนให้เท่าเทียมกัน
ส่วน นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จ.ระนองเสนอขอไว้เพียง 11 โครงการ แต่ได้รับอนุมัติเพียง 6 โครงการ จำนวน 108 ล้านบาทเท่านั้น โดยเฉพาะความต้องการเรื่องถนน 4 เลนเพื่อเชื่อมขยายเส้นทางคมนาคมเข้าสู่ จ.ระนองให้สะดวกขึ้นก็ไม่ได้รับการเหลียวแล ขณะที่ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จ.กระบีได้เสนอโครงการ 10 โครงการแต่ได้รับการอนุมัติแค่ 1 โครงการ วงเงิน 99 ล้านบาทเท่านั้น คือ การสร้างอาคารอุบัติเหตุอบัติภัยเพื่อรองรับภัยภิบัติทั้งที่ทางจังหวัดได้ขอจัดตั้งมหาวิทยาลัยอันดามันเพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาของจังหวัดชายฝั่งอันดามันแต่ก็ไม่ได้นับการตอบรับจากรัฐบาล
ด้าน นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง กล่าวว่า จ.ตรังมีการทำโครงการขอพื้นที่ 6 โครงการ แต่ได้รับการอนุมัติเพียง 3 โครงการ วงเงิน 104 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เริ่มสร้างความแตกแยกด้วยการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งที่จังหวัดกลุ่มอันดามันเป็นแหล่งสร้างรายได้ จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศอันดับ 1 ต้องการงบประมาณพัฒนาท่าเรือ สนามบิน การคมนาคม แต่รัฐบาลไม่ให้การเหลียวแล โดยนายอาคมกล่าวเสริมว่า เมื่อดูยอดการอนุมัติโครงการของ ครม.สัญจรที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยกโขยงลงกันมาสร้างภาพว่าพัฒนาพื้นที่ แต่อนุมัติเม็ดเงินพัฒนาภาคใต้ซึ่งเป็นสร้างเม็ดเงินและเศรษฐกิจของชาติ เฉลี่ยจังหวัดละ 100 กว่าล้าน ครม.ครั้งนี้ที่ยกลงกันมาสัญจรมาที่ จ.ภูเก็ต เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณและเสียข้าวสุกเปล่าๆ หากอนุมัติโครงการอแค่นี้ก็ไม่ต้องสร้าวภาพเป็น ครม.สัญจร ประชุมกันที่ กทม.ก็ได้ แต่สร้างภาพออกข่าวใหญ่โตว่าอนุมัติเงินถึง 84,136 ล้านบาท แต่ทั้งที่จริงมีการอนุมัติเพียง 600 กว่าล้านบาท ก็เป็นการสร้างข่าวหลอกลวงเพื่อสร้างภาพเท่านั้น