มท.เผยใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. รับมือ 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไล่บี้ พวกฝ่าฝืนคำสั่งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก-พ.ร.บ.ควบคุมการดื่ม
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระกระทู้ถามเรื่อง แนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 โดยนายวุฒิเลิศ เทวกุล ส.ว. เป็นผู้ตั้งถามนายกรัฐมนตรี โดยได้มอบหมายให้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทยเป็นผู้ชี้แจงแทน ทั้งนี้ นายวุฒิเลิศ กล่าวว่า ขณะนี้อีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ไทย แต่เนื่องจากรายงานสถิติของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 ที่ผ่านมา ระบุว่าสถิติอุบัติเหตุช่วงระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. 2554 นั้น มีอุบัติเหตุสะสมถึง 3,215 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตประมาณ 271 ราย และบาดเจ็บจำนวน 3,476คน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุราร้อยละ 38.76 และร้อยละ 81.12 ของประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ว่าภาครัฐและเอกชนจะรณรงค์การป้องกันและป้องปราบการขับขี่ขณะเมาสุราหลายวิธีก็ตาม ซึ่งรัฐบาลจึงควรหามาตรการเชิงรุกที่จะสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้เข้าถึงกลุ่มผู้ขับขี่รถทุกประเภท และบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 อย่างจริงจังด้วยหรือไม่
นายฐานิสร์กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมการสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ฃองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน องค์กรส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำหนดแนวทางลดอุบัติเหตุทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา 1.ช่วงเตรียมความพร้อม ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-10 เม.ย. 2555 2.ช่วงปฏิบัติการเข้มข้น วันที่ 11-17 เม.ย. 2555 โดยมีมาตรการทั้งทางด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะตั้งด่านจุดตรวจร่วมพร้อมสนธิกำลังจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อาทิ ตำรวจ อาสาสมัคร ชุดสายตรวจตามเส้นทางสายหลัก-รอง ชุมชน สถานบันเทิง เพื่อเป็นการป้องปราบการฝ่าฝืนการกระทำความผิด และป้องกันความเสี่ยงเมาสุรา ขับรถเร็ว และการไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงมาตรการทางด้านสังคม โดยการมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่จัดให้มีจุดพักรถ จุดตรวจตักเตือนประจำชุมชน หมู่บ้าน ที่เน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ การดื่มสุรา แอลกอฮอล์ ทั้งยังจะจัดพื้นที่สำหรับเล่นน้ำสงกรานต์กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยประกาศให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอลล์ ตาม 3 ม. คือ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย 2 ข. คือ ใบขับขี่ และรัดเข็มขัดนิรภัย รวมถึง 1 ร. ขับรถเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมการสั่งประสานงานความพร้อมด้านพยาบาล ทางการแพทย์ หน่วยฉุกเฉินร่วมด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินการตามแผนแม่บทเรื่องความปลอดภัยทางถนนมาเป็นแนวทางเพิ่มศักยภาพการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เช่น การนำพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาใช้อย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงเหตุการณ์ปกติ และเทศกาลต่างๆ เป็นต้น และยังมีการยกร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มเติมร่างข้อสันนิษฐานกฎหมายในกรณีผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ยอมให้ทดสอบว่าเมาสุรา โดยไม่มีเหตุอันสมควร พร้อมทั้งเพิ่มบทลงโทษและอัตราโทษกรณีฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึง พ.ร.บ.การควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่จะเป็นตัวกำกับลดการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระกระทู้ถามเรื่อง แนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 โดยนายวุฒิเลิศ เทวกุล ส.ว. เป็นผู้ตั้งถามนายกรัฐมนตรี โดยได้มอบหมายให้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทยเป็นผู้ชี้แจงแทน ทั้งนี้ นายวุฒิเลิศ กล่าวว่า ขณะนี้อีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ไทย แต่เนื่องจากรายงานสถิติของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 ที่ผ่านมา ระบุว่าสถิติอุบัติเหตุช่วงระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. 2554 นั้น มีอุบัติเหตุสะสมถึง 3,215 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตประมาณ 271 ราย และบาดเจ็บจำนวน 3,476คน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุราร้อยละ 38.76 และร้อยละ 81.12 ของประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ว่าภาครัฐและเอกชนจะรณรงค์การป้องกันและป้องปราบการขับขี่ขณะเมาสุราหลายวิธีก็ตาม ซึ่งรัฐบาลจึงควรหามาตรการเชิงรุกที่จะสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้เข้าถึงกลุ่มผู้ขับขี่รถทุกประเภท และบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 อย่างจริงจังด้วยหรือไม่
นายฐานิสร์กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมการสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ฃองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน องค์กรส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำหนดแนวทางลดอุบัติเหตุทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา 1.ช่วงเตรียมความพร้อม ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-10 เม.ย. 2555 2.ช่วงปฏิบัติการเข้มข้น วันที่ 11-17 เม.ย. 2555 โดยมีมาตรการทั้งทางด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะตั้งด่านจุดตรวจร่วมพร้อมสนธิกำลังจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อาทิ ตำรวจ อาสาสมัคร ชุดสายตรวจตามเส้นทางสายหลัก-รอง ชุมชน สถานบันเทิง เพื่อเป็นการป้องปราบการฝ่าฝืนการกระทำความผิด และป้องกันความเสี่ยงเมาสุรา ขับรถเร็ว และการไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงมาตรการทางด้านสังคม โดยการมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่จัดให้มีจุดพักรถ จุดตรวจตักเตือนประจำชุมชน หมู่บ้าน ที่เน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ การดื่มสุรา แอลกอฮอล์ ทั้งยังจะจัดพื้นที่สำหรับเล่นน้ำสงกรานต์กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยประกาศให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอลล์ ตาม 3 ม. คือ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย 2 ข. คือ ใบขับขี่ และรัดเข็มขัดนิรภัย รวมถึง 1 ร. ขับรถเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมการสั่งประสานงานความพร้อมด้านพยาบาล ทางการแพทย์ หน่วยฉุกเฉินร่วมด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินการตามแผนแม่บทเรื่องความปลอดภัยทางถนนมาเป็นแนวทางเพิ่มศักยภาพการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เช่น การนำพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาใช้อย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงเหตุการณ์ปกติ และเทศกาลต่างๆ เป็นต้น และยังมีการยกร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มเติมร่างข้อสันนิษฐานกฎหมายในกรณีผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ยอมให้ทดสอบว่าเมาสุรา โดยไม่มีเหตุอันสมควร พร้อมทั้งเพิ่มบทลงโทษและอัตราโทษกรณีฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึง พ.ร.บ.การควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่จะเป็นตัวกำกับลดการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย
