กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ได้กำหนดมาตรการกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มข้น 7 ข้อหา ปลุกจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนนให้เคารพกฎจราจร และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งข้อหาดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และส่งผลกระทบต่อปัญหาจราจร มี 7 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ดังนี้
ความผิดที่พนักงานสอบสวนต้องส่งฟ้องศาล 2 ข้อหา คือ
1. ข้อหา แข่งรถในทาง (ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ มาตรา 134, 160 ทวิ
2. ข้อหา ขับรถขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (มาตรา 43(2) , 160 ตรี )
ความผิดที่พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้ 5 ข้อหา คือ
1. ข้อหา ขับรถย้อนศร (ฝ่าผืน ปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 41 , 148 )
2. ข้อหา ขับรถแซงเมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย (ฝ่าฝืน ปรับตั้งแต่ 400 บาท ถึง 1,000 บาท ( ตามมาตรา 46 , 157 )
3. ข้อหา จอดรถซ้อนคัน ( ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 57(9), 148 )
4. ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ( ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท มาตรา 67 วรรค 1, 152 )
5 .ข้อหา ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย (ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 500 บาท มาตรา 122 , 148 )
รวมทั้งสองส่วนจะมีทั้งหมด 7 ข้อหาด้วยกัน สำหรับข้อหาที่สามารถเปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด ทั้งนี้ จะเริ่มกวดขันวินัยจราจรวันที่ 10 ธ.ค. 54 เป็นต้นไป ส่วนความผิดเกี่ยวกับแผ่นป้ายทะเบียน และมาตรฐานค่าควันดำของเครื่องยนต์ บช.น. จะใช้นโยบายว่ากล่าวตักเตือนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 54
ความผิดที่พนักงานสอบสวนต้องส่งฟ้องศาล 2 ข้อหา คือ
1. ข้อหา แข่งรถในทาง (ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ มาตรา 134, 160 ทวิ
2. ข้อหา ขับรถขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (มาตรา 43(2) , 160 ตรี )
ความผิดที่พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้ 5 ข้อหา คือ
1. ข้อหา ขับรถย้อนศร (ฝ่าผืน ปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 41 , 148 )
2. ข้อหา ขับรถแซงเมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย (ฝ่าฝืน ปรับตั้งแต่ 400 บาท ถึง 1,000 บาท ( ตามมาตรา 46 , 157 )
3. ข้อหา จอดรถซ้อนคัน ( ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 57(9), 148 )
4. ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ( ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท มาตรา 67 วรรค 1, 152 )
5 .ข้อหา ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย (ฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน 500 บาท มาตรา 122 , 148 )
รวมทั้งสองส่วนจะมีทั้งหมด 7 ข้อหาด้วยกัน สำหรับข้อหาที่สามารถเปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด ทั้งนี้ จะเริ่มกวดขันวินัยจราจรวันที่ 10 ธ.ค. 54 เป็นต้นไป ส่วนความผิดเกี่ยวกับแผ่นป้ายทะเบียน และมาตรฐานค่าควันดำของเครื่องยนต์ บช.น. จะใช้นโยบายว่ากล่าวตักเตือนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 54
