xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่ง ก.ทรัพย์ เป็นเจ้าภาพแก้พิษหมอกควัน เข้มใช้ กม.

เผยแพร่:

นายกฯ ห่วงโฮปเวลล์ ถล่มอีก สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสภาพ จี้ รมต.ส่งข้อมูลเข้าเว็บ pmocflood.com สั่ง ก.ทรัพย์ เป็นเจ้าภาพแก้ปัญหาหมอกควัน กำชับเข้ม กม.-พ.ร.บ.สาธารณสุข-พ.ร.บ.จราจรทางบก “วิทยา” เสนอประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ “สมช.” เผย เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านความมั่นคง บังคับใช้ กม.-ตรวจคนเข้าเมืองเคร่งครัด


วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องโครงการโฮปเวลล์ ว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องโครงสร้างที่อาจจะพังถล่มลงมา โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบความพร้อมของโครงสร้าง เพราะยังมีโครงสร้างบางจุดของโฮปเวลล์ เช่นโครงสร้างในจุดที่วางแผนจะทำรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมถึงตรวจดูความพร้อมและความปลอดภัยทั้งหมดของโฮปเวลล์ที่เหลืออยู่


นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า สำหรับเว็ปไซด์www.pmocflood.com ซึ่งรัฐบาลมีการจัดทำขึ้นมาเพื่ออัพเดทการทำงานของรัฐบาล โดยประชาชนสามารถตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานของแต่ละกระทรวง รวมถึงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง และอื่นๆ เพื่อแสดงความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาลนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการขึ้นระบบแล้ว

โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้รีบส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆที่มีเพิ่มเติมเข้าไปในระบบ ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งระบบลับขึ้นมาสำหรับข้าราชการระดับสูงคือนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวสารของเว็ปไซด์แล้วทุกคนจะสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ทั้งหมด


นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งที่นายกฯให้ความสำคัญคือเรื่องปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาหนักในขณะนี้ โดยนายกฯได้มอบหมายนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯได้ชี้แจงให้นายกฯฟังว่า ตนได้ไปพูดคุยกับผู้ว่าราชการทั้งหมด 9 จังหวัดในภาคเหนือเรียบร้อยแล้ว และได้แบ่งงานผู้ว่าฯทั้งหมดแล้ว โดยให้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องหมอกควันขึ้นตรงกับนายกฯ และได้กำชับให้ดูแลเรื่องพ.ร.บ.สาธารณะสุข บังคับใช้ให้ได้ผลเต็มที่ รวมถึงพ.ร.บ.จราจรทางบก เพราะในพ.ร.บ.การจราจรทางบกได้ระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามมีการเผาในพื้นที่ของกรมทางหลวงบนถนนต่างๆ รวมถึงมาตรา 220 เกี่ยวกับผู้ที่กระทำความผิด หรือผู้ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ต่างๆ จึงกำชับให้ผู้ว่าฯรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงได้พูดคุยกับกรมป่าไม้ เกษตรจังหวัดเกษตรอำเภอ ให้ทำงานร่วมกัน และขอให้ใช้หน่วยงานดาวเทียมถ่ายภาพทั้งหมดเพื่อให้เห็นความคืบหน้าหลังจากที่ดำเนินการแล้ว

นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า ด้านนายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ได้เสนอในที่ประชุมครม.ว่าอยากให้มีการประกาศเป็นเรื่องภัยพิบัติ เพราะถ้าหากประกาศแล้ว อาจจะมีมาตรการช่วยเหลือและดูแลที่ดีขึ้นกว่าหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่รอให้ที่ประชุมครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับผลกระทบเรื่องหมอกควันนั้น

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้รับคำสั่งให้ช่วยดูแล เนื่องจากผลกระทบหมอกควันนั้นส่วนใหญ่จะมาจากทางประเทศพม่า จึงจะให้รมว.ต่างประเทศปรึกษาหารือและดูมาตรการว่าจะสามารถพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไรบ้าง

นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสำนักฝนหลวงได้มีการดำเนินการอยู่ที่ภาคเหนืออยู่แล้ว โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปลงพื้นที่ 3 วัน เพื่อดูแลและประชุมกับหน่วยงานผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง

นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งที่นายกฯแจ้งให้ทราบและมีความเป็นห่วงคือ งาน World Economic Forum (WEF) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยนายกฯอยากให้รัฐมนตรีทุกคนที่มีส่วนร่วมไปพูดคุยกัน หากทางต่างประเทศส่งซีอีโอเข้ามา ทางไทยเราก็จะส่งซีอีโอในแต่ละกระทรวงไปพูดคุย หากมีรัฐมนตรีท่านใดใน WEF มาเราก็จะส่งรัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวข้องไปพูดคุยเช่นกัน โดยจะพูดถึงการท่องเที่ยว ความปลอดภัย ความไว้วางใจต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปวันนี้ รวมถึงเรื่องสาธารณะสุขต่างๆด้วย ทั้งนี้นายกฯอยากให้มีจุดที่สร้างชื่อเสียงให้ชาวต่างชาติที่มาร่วมประชุมในไทย คือสนามบินสุวรรณภูมิ ที่อาจจะมีจุดให้ความรู้ต่างๆในประเทศบ้านเรา


นายภักดีหาญส์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมครม.วันนี้ (6 มี.ค.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งในประเทศอิสราเอล และอิหร่าน เรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการใช้ระบบติดต่อทางโทรศัพท์ว่าพบผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย ที่เกี่ยวพันกับการพูดคุยกันในประเทศอิหร่านและประเทศมาเลเซีย วันนี้จึงมีมาตรการในการักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น โดยการตรวจตราหนังสือเดินทางอย่างเคร่งครัด และใช้มาตรา 38 ของพ.ร.บ.คนเข้าเมือง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น