รองโฆษก ทบ.เผยส่งทหารเร่งลอกคลองกรุงรวมปรับภูมิทัศน์แต่งคันดินปลูกพืชคลุม รับเสร็จแล้ว 20 คลอง 136 กม. - ระบุฝึกร่วมสิงคโปร์เน้นรบยานเกราะทั้งภาคสนามและกระสุนจริง จ่อเชิญ “ยิ่งลักษณ์-สุกำพล” ชมพิธีปิดด้วย - วอนชาวบ้านอย่าตื่น “ธีรยุทธ” ปูดปฏิวัติ
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 11.30 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการขุดลอกคูคลองตามโครงการ “ขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม. โดยกองทัพบก” ว่า หน่วยทหารช่างจากกองทัพภาคที่ 1, 2 และ 3 ยังคงเร่งขุดลอกคูคลองควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งการดัดแปลงยุทโธปกรณ์เสริมการขุดลอกให้รวดเร็วและได้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยังกำชับให้ทุกหน่วยเร่งรัดการทำงานให้เร็วกว่าแผนงาน เพื่อให้มีเวลาเหลือเพียงพอในการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ที่อาจจะมีข้อจำกัดต่างๆ รวมทั้งมอบนโยบายในการปรับภูมิทัศน์และปรับแต่งคันดินริมคลอง ปลูกพืชคลุมดินป้องกันน้ำกัดเซาะ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม.นั้น กำลังดำเนินการอยู่ใน 18 เขต จาก 27 เขต มีคลองที่อยู่ในระหว่างการขุดลอกจำนวน 116 คลอง คลองที่ขุดเสร็จแล้ว 20 คลอง ยาว 136 กม. และการขุดลอกสูงกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 1.07% ในส่วนการสนับสนุนทหารช่างในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรมทรัพยากรน้ำนั้น กองทัพบกได้มอบหมายให้ดำเนินการขุดลอกคลอง 51 พื้นที่ ใน 16 จังหวัด ซึ่งหน่วยทหารช่างจากกรมทหารช่าง กองทัพภาคที่ 1 และ2 ได้เข้าพื้นที่เริ่มปฏิบัติงานพร้อมทั้งประสานงานกับส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยลักษณะการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานแบบเดียวกับในพื้นที่ กทม.
รองโฆษกกองทัพบก ยังแถลงถึงการฝึกผสมไทย-สิงคโปร์ รหัสคชสีห์ 2012 ในระหว่างวันที่ 21 มี.ค. - 5 เม.ย.55 จ.สระแก้ว ว่าเป็นการฝึกทางยุทธวิธีตามโครงการความร่วมมือระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกสิงคโปร์ โดยการฝึกในครั้งนี้กองทัพบกมอบหมายให้กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และกองร้อยหน่วยทหารราบยานเกราะของทั้ง 2 ประเทศ ได้มีประสบการณ์ ความชำนาญในเรื่องการวางแผน ควบคุมบังคับบัญชาและประสานงาน เน้นเรื่องการใช้รถยานเกราะล้อยางทั้งทางยุทธวิธี ทางเทคนิค และการปรนนิบัติบำรุง รวมทั้งพัฒนาหลักนิยมทางยุทธวิธีในการปฏิบัติร่วม นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีของกองทัพทั้ง 2 ประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการฝึกในครั้งนี้ ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนฝึกในที่ตั้ง การฝึกภาคสนามและการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เช่น การใช้เครื่องช่วยฝึกบังคับรถ เพื่อให้กำลังพลมีความชำนาญ เพิ่มความสามารถในการใช้ยานเกราะล้อยาง การดำรงชีพและอยู่รอดในสนามรบ การรบในสิ่งปลูกสร้าง การฝึกเป็นหน่วยทหารขนาดเล็ก ทั้งนี้จะมีพิธีเปิดการฝึกในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ที่กองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี โดยมีผู้บัญชาการกองพลที่3 ของกองทัพบกสิงคโปร์และผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ของไทย เป็นประธานร่วมกัน สำหรับพิธีปิดกำหนดขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.55 ณ บ้านภักดีแผ่นดิน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยมีผู้บัญชาการทหารบกของไทย และผู้บัญชาการทหารบกของสิงคโปร์ ร่วมเป็นประธาน เพื่อมอบขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ กองทัพบกได้เรียนเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้เกียรติร่วมชมการสาธิตการเข้าตีด้วยกระสุนจริง พร้อมชมนิทรรศการยานเกราะล้อยางของทั้ง 2 ประเทศในพิธีปิดด้วย ทั้งนี้ คิดว่านายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมจะมาชม เพราะนอกจากท่านจะให้ความสนใจแล้ว ยังเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพ กล่าวถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี ผอ.สถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ออกมาแสดงความเป็นห่วงหากมีการนิรโทษกรรมโละคดีของ คตส. อาจจะนำไปสู่การปฏิวัติอีกรอบว่า เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของนักวิชาการ ซึ่งไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลหรือตื่นตระหนก เพราะขณะนี้กองทัพบกมีบรรยากาศในการทำงานอยู่ 2 เรื่อง คือ การช่วยเหลือประชาชน เรื่องการขุดลอกคูคลอง และการดูแลปัญหาหมอกควันไฟป่าและภัยแล้ง นอกจากนี้ กองทัพบกยังมีภาระกิจการฝึกร่วมทั้งภายนอกและภายในประเทศ รวมถึงการสนับสนุน กอ.รมน. และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการเร่งปราบปรามยาเสพติด ซึ่งยอมรับว่าภาระของกองทัพบกค่อนข้างจะตึง แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังและดูผลงานของกองทัพจะดีกว่า
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 11.30 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการขุดลอกคูคลองตามโครงการ “ขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม. โดยกองทัพบก” ว่า หน่วยทหารช่างจากกองทัพภาคที่ 1, 2 และ 3 ยังคงเร่งขุดลอกคูคลองควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งการดัดแปลงยุทโธปกรณ์เสริมการขุดลอกให้รวดเร็วและได้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยังกำชับให้ทุกหน่วยเร่งรัดการทำงานให้เร็วกว่าแผนงาน เพื่อให้มีเวลาเหลือเพียงพอในการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ที่อาจจะมีข้อจำกัดต่างๆ รวมทั้งมอบนโยบายในการปรับภูมิทัศน์และปรับแต่งคันดินริมคลอง ปลูกพืชคลุมดินป้องกันน้ำกัดเซาะ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม.นั้น กำลังดำเนินการอยู่ใน 18 เขต จาก 27 เขต มีคลองที่อยู่ในระหว่างการขุดลอกจำนวน 116 คลอง คลองที่ขุดเสร็จแล้ว 20 คลอง ยาว 136 กม. และการขุดลอกสูงกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 1.07% ในส่วนการสนับสนุนทหารช่างในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรมทรัพยากรน้ำนั้น กองทัพบกได้มอบหมายให้ดำเนินการขุดลอกคลอง 51 พื้นที่ ใน 16 จังหวัด ซึ่งหน่วยทหารช่างจากกรมทหารช่าง กองทัพภาคที่ 1 และ2 ได้เข้าพื้นที่เริ่มปฏิบัติงานพร้อมทั้งประสานงานกับส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยลักษณะการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานแบบเดียวกับในพื้นที่ กทม.
รองโฆษกกองทัพบก ยังแถลงถึงการฝึกผสมไทย-สิงคโปร์ รหัสคชสีห์ 2012 ในระหว่างวันที่ 21 มี.ค. - 5 เม.ย.55 จ.สระแก้ว ว่าเป็นการฝึกทางยุทธวิธีตามโครงการความร่วมมือระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกสิงคโปร์ โดยการฝึกในครั้งนี้กองทัพบกมอบหมายให้กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และกองร้อยหน่วยทหารราบยานเกราะของทั้ง 2 ประเทศ ได้มีประสบการณ์ ความชำนาญในเรื่องการวางแผน ควบคุมบังคับบัญชาและประสานงาน เน้นเรื่องการใช้รถยานเกราะล้อยางทั้งทางยุทธวิธี ทางเทคนิค และการปรนนิบัติบำรุง รวมทั้งพัฒนาหลักนิยมทางยุทธวิธีในการปฏิบัติร่วม นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีของกองทัพทั้ง 2 ประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการฝึกในครั้งนี้ ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนฝึกในที่ตั้ง การฝึกภาคสนามและการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เช่น การใช้เครื่องช่วยฝึกบังคับรถ เพื่อให้กำลังพลมีความชำนาญ เพิ่มความสามารถในการใช้ยานเกราะล้อยาง การดำรงชีพและอยู่รอดในสนามรบ การรบในสิ่งปลูกสร้าง การฝึกเป็นหน่วยทหารขนาดเล็ก ทั้งนี้จะมีพิธีเปิดการฝึกในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ที่กองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี โดยมีผู้บัญชาการกองพลที่3 ของกองทัพบกสิงคโปร์และผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ของไทย เป็นประธานร่วมกัน สำหรับพิธีปิดกำหนดขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.55 ณ บ้านภักดีแผ่นดิน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยมีผู้บัญชาการทหารบกของไทย และผู้บัญชาการทหารบกของสิงคโปร์ ร่วมเป็นประธาน เพื่อมอบขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ กองทัพบกได้เรียนเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้เกียรติร่วมชมการสาธิตการเข้าตีด้วยกระสุนจริง พร้อมชมนิทรรศการยานเกราะล้อยางของทั้ง 2 ประเทศในพิธีปิดด้วย ทั้งนี้ คิดว่านายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมจะมาชม เพราะนอกจากท่านจะให้ความสนใจแล้ว ยังเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพ กล่าวถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี ผอ.สถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ออกมาแสดงความเป็นห่วงหากมีการนิรโทษกรรมโละคดีของ คตส. อาจจะนำไปสู่การปฏิวัติอีกรอบว่า เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของนักวิชาการ ซึ่งไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลหรือตื่นตระหนก เพราะขณะนี้กองทัพบกมีบรรยากาศในการทำงานอยู่ 2 เรื่อง คือ การช่วยเหลือประชาชน เรื่องการขุดลอกคูคลอง และการดูแลปัญหาหมอกควันไฟป่าและภัยแล้ง นอกจากนี้ กองทัพบกยังมีภาระกิจการฝึกร่วมทั้งภายนอกและภายในประเทศ รวมถึงการสนับสนุน กอ.รมน. และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการเร่งปราบปรามยาเสพติด ซึ่งยอมรับว่าภาระของกองทัพบกค่อนข้างจะตึง แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังและดูผลงานของกองทัพจะดีกว่า
