“ส.ว.ประสงค์” ตั้งกระทู้ถามจัดการพวกหมิ่นสถาบันในต่างแดน “สุรพงษ์” ตอบอ้าง กต.โต้จริงจังพร้อมแจงต่างชาติ อ้างรัฐไร้อำนาจจับคนหมิ่นนอกราชอาณาจักร โอ่ใช้แผนน้ำดีไล่น้ำเสียแก้ สร้างข้อมูลเชิงบวกส่งเสริมภาพลักษณ์
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ ครั้งที่ 18 โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้พิจารณากระทู้ถามด่วนของนายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา เรื่องการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศ โดยนายประสงค์กล่าวว่า ประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างแดนเขามีความกังวลต่อการจาบจ้วง ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งขณะนี้ก็มีการดำเนินการในหลายรูปแบบ ทั้งจาบจ้วงผ่านทางอินเทอร์เน็ต รูปภาพ และบางกลุ่มได้ให้ร้ายอย่างรุนแรง ตนอยากถามว่ารัฐบาลมีแนวทางดำเนินการจัดการอย่างไรให้การจาบจ้วงสถาบันยุติลงเสียที รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อกลุ่มบุคคลที่อาศัยอยู่ต่างแดนและทำลาย จาบจ้วงสถาบัน และรัฐบาลได้ให้นโยบายแก่หน่วยงานรัฐในต่างประเทศอย่างไร
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการในการชี้แจงตอบโต้การกระทำอย่างจริงจัง รัฐบาลมีความจริงใจและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่หากมีบุคคลชาวไทยในต่างประเทศ มีพฤติกรรมหมิ่น จาบจ้วงสถาบัน สถานเอกอัครราชทูตในประเทศนั้นๆ จะต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานมายังกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากนั้นจะพิจารณาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แม้ประเทศไทยจะมีคำพิพากษาว่าบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายหมิ่น รัฐบาลก็ไม่มีอำนาจในการสั่งการจับกุมตัว หรือส่งตัวผู้กระทำผิดให้แก่ทางการไทยได้ แต่กระทรวงต่างประเทศก็ทำความเข้าใจแก่ประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจ และดำเนินการตามกฎหมาย แก่บุคคลที่มีพฤติการณ์หมิ่นและจาบจ้วง
“รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศก็พยายามให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามแนวทางน้ำดีไล่น้ำเสีย เน้นการทำงานอย่างบูรณาการ ในการเผยแพร่ข้อมูลเชิงบวกในประเทศต่างๆ เราเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นแนวทางที่ยั่งยืนในการส่งเสริมภาพลักษณ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ การดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจกับต่างประเทศนั้น เป็นสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเราได้ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และเทิดทูนสถาบัน นอกจากนี้ หากปรากฏประเด็นที่กระทบต่อสถาบัน กระทรวงการต่างประเทศจะให้สถานเอกอัครราชทูตทำความเข้าใจกับเจ้าบ้านเสมอ” นายสุรพงษ์กล่าว
