“หมวดเจี๊ยบ” จวก ปชป.ขวางเยียวยาแดง ไม่หนุนปรองดอง

ทีมโฆษก พท.ประณาม ปชป.ขวางเยียวยาเหยื่อแดงชุมนุม สะท้อนไม่ต้องการปรองดอง วอนชาวใต้ต้อนรับ ครม.สัญจร ชี้ รบ.ไม่เลือกปฏิบัติ มีงบสนับสนุน

วันนี้ (18 มี.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางกระบวนการสร้างความปรองดอง โดยเห็นได้จากการคัดค้านการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมนั้น ทั้งที่พรรคเพื่อไทยยืนยันแล้วว่าไม่ได้มอบให้กลุ่มคนสีใดสีหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านร่วมมือกันเพื่อให้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งจะดีกว่า

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า นายโคฟี อันนัน เคยพูดไว้ว่าหัวใจที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมได้ อยู่ที่ทัศนคติของนักการเมืองและประชาชน แต่ทัศนคติของพรรคประชาธิปัตย์กำลังสงสัยได้ว่ามีทัศนคติต่อประชาชนบางกลุ่มบางสีอย่างไร โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจจะมีความฝังใจที่ทั้งคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง ที่เคยกล่าวโจมตีใช่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ระบุว่าเมื่อมาเป็นนักการเมืองควรแยกเรื่องส่วนตัวออกจากผลประโยชน์ประชาชน และรู้สึกแปลกใจกับท่าทีนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ก่อนหน้าเคยสนับสนุนการทำงาน เมื่อสถาบันมีข้อสรุปส่งผลกระทบทางลบพรรคเพื่อไทย ก็บอกให้ทุกฝ่ายเชื่อถือ แต่เมื่อมีข้อเสนอไม่ถูกใจ นายอภิสิทธิ์ก็มาดิสเครดิต ทั้งที่เป็นการนำเสนอเกิดจากการศึกษาวิจัย ด้วยเหตดังกล่าวทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่านายอภิสิทธิ์มีทัศนคติที่มีปัญหาต่อการปรองดองหรือไม่

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำประเด็นที่ กกต.มีมติเพิกถอนนายดิสทัต คำประกอบ ส.ส.เขต 2 นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย มายื่นยุบพรรคเพื่อไทยนั้น มองว่าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ทำเพื่อต้องการแก้เกี้ยวที่ตนเคยไปยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกรณีนายดิสทัตไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ผู้สมัครได้ยื่นหลักฐานมายังพรรคเพื่อพิจารณาและ กกต.ได้ รับรองให้ลงสมัคร โดยเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้สมัครและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้ว ถ้าเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยผิด แล้ว กกต.ที่รับรองคุณสมบัติจะผิดด้วยหรือไม่ โดยส่วนตัวมองต่างว่าตามปกติแล้วในมาตรา 106 ต่้องส่งเดังกล่าวให้ประธานสภาฯ ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จึงแปลกใจที่ กกต.ต้องส่งคำวินิจฉัยเรื่องนี้ให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตีความ

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานภาคใต้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่จัดประชุม ครม.สัญจร วันที่19-20 มี.ค.ที่ จ.ภูเก็ต ขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญพี่น้องภาคใต้ โดยไม่เลือกปฏิบัติ และหากไปดูในรายละเอียด 5 กลุ่มจังหวัดอันดามัน ที่มีการเสนองบประมาณกว่า 8 หมื่นล้านบาท ทั้งสาธารณูปโภค การขนส่ง ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จึงอยากให้ชาวใต้ต้อนรับการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวใต้

ขณะเดียวกันยังระบุถึงกรณีที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดประเด็น ว.5 ชั้น 6 ที่กระทรวงแรงงาน โดยอ้างว่ามีนักการเมืองหารือถึงเรื่องผลประโยชน์นั้น ตนขอท้าให้ น.ส.มัลลิกานำหลักฐานมาเปิดเผยด้วย