ปชป.โวย “เผดิมชัย” สั่งระงับส่งแรงงานไทยไปอิสราเอลมีเลศนัย เผยมีสัญญาระบุชัดมีค่าใช้จ่ายแค่ 8 หมื่นบาท ไม่ใช่ 120,000 บาทตามที่ รมว.แรงงานอ้าง เตือนถ้ายังไม่ยกเลิกสั่งระงับ ร้อง ป.ป.ช.ฟันแน่ พร้อม เรียกร้องนายกฯ ตรวจสอบมีนักการเมืองในกระทรวงขอหัวคิวรายละ 3 หมื่นบาท ขู่หากยังเฉยจะนำพยานและคลิปมาแฉ
วันนี้ (17 มี.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน เดินหน้าส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลโดยทันที อย่าระงับตามที่ระบุเป็นข่าว เนื่องจากแรงงานตามโครงการดังกล่าวนั้น เป็นแรงงานที่ได้ทำสัญญาไว้แล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 6,000 คน โดยก่อนการยุบสภา ได้ส่งแรงงานไทยไปแล้วล็อตแรก จำนวน 3,300 คน และแรงงานที่เหลือต้องเดินหน้าต่อในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน
“กรณีนี้นายเผดิมชัยสั่งให้ชะลอ เพราะต้องการแก้ไขปัญหาเก็บค่าหัวคิว และระบุว่าจะเก็บค่าเดินทางไม่เกิน 120,000 บาทนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสงสัย เพราะแรงงานไทยไปอิสราเอลนั้นได้ทำสัญญา ตามปฏิญญา 3 สิงหาคม 2553 มีค่าใช้จ่ายเพียง 80,000 บาท แต่หากจะเพิ่มเป็น 120,000 บาทถือว่าได้ทำผิดสัญญา และหากมีการเดินหน้าดิฉันจะนำเรื่องนี้ยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบเพื่อเอาผิด”
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวว่านักการเมืองที่มีความใกล้ชิดกับนายเผดิมชัย เรียกบริษัทจัดหางานในต่างประเทศที่ดูแลในโครงการส่งแรงงานไทยไปอิสราเอล มาต่อรองขอเก็บค่าหัวคิวกับแรงงานไทยที่เข้าร่วมโครงการเป็นเงินรวม 30,000 บาทว่ามีมูลค่าจริงหรือไม่
โดยข้อมูลชุดนี้มีบริษัทเอกชนที่ดำเนินโครงการส่งแรงงานไทยไปอิสราเอลมาแจ้งว่าถูกนักการเมืองในกระทรวงแรงงานได้เชิญไปคุยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อขอเก็บเงินในโครงการดังกล่าวเพิ่ม โดยต้องเก็บย้อนหลังกับแรงงานที่ได้เดินทางไปทำงานแล้วด้วย ดังนั้นตนขอเรียกว่าภารกิจ ว.5 ชั้น 6 กระทรวงแรงงาน ขอให้นายกฯ ตรวจสอบและชี้แจงโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดขบวนการทำนาบนหลังคน หรือขบวนการค้ามนุษย์กลับมา
“การเก็บหัวคิวเพิ่มนั้น หากทำได้จริง จะทำเงินให้กับคนเจรจามากถึงพันล้านบาท ขอให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ดินฉันจะไม่ยื่นเงื่อนไขเวลาให้ชี้แจง เพราะอยากเป็นการติเพื่อป้องปราม แต่หากยังเดิมหน้า ดิฉันมีพยานและคลิป ออกมาเปิดเผยในก๊อกสอง”