กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ เสนอรัฐบาลทำอีไอเอตามขั้นด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ม.67 ก่อนสร้างเขื่อนรอบนิคมอุสาหกรรม ทำแก้มลิง และฟลัดเวย์ หวั่นชาวบ้านฟ้องศาลปกครองระงับวุ่นวายภายหลัง
ที่รัฐสภา วันนี้ (14 มี.ค.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล เช่น กรมชลประทาน องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (กอสส.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) สำนักงบประมาณ และ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน แกนนำผู้ฟ้องคดีเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนกันน้ำท่วม
นายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมได้สอบถามแนวทางการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา เช่น การสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบนิคมอุสาหกรรม การทำพื้นที่รองรับน้ำ (แก้มลิง) และการทำพื้นที่ ฟลัดเวย์ว่า รัฐบาลมีการดำเนินการตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสองหรือไม่ เพราะโครงการที่ทำอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทางด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ต้องทำผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ พร้อมทั้งจัดทำการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหรือไม่ โดยตัวแทนจากภาครัฐบางที่เข้าร่วมชี้แจงไม่สามารถตอบได้
“ผมจึงฟันธงว่ารัฐบาลต้องทำตามขั้นตอนเช่นนี้ก่อน และเป็นไปตามการวางบรรทัดฐานของศาลปกครองที่วางไว้ในคดีหมายเลข 3/52/16 ม.ค. 2552 ว่า การทำโครงการใดๆ ที่อาจเกิดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและส่งผลต่อสภาพความเป็นอยู่ของชุมชน จำเป็นจะต้องทำตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า นางรัชฎาภรณ์จึงได้สรุปผลการประชุม และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแจ้งรัฐบาลให้จัดทำตามขั้นตอนด้านสิ่งแวดล้อมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ก่อนที่จะดำเนินการโครงการดังกล่าว เพราะหากไม่ทำอาจถูกชาวบ้านฟ้องศาลปกครองจนบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
