นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวกรณีการทำฟลัดเวย์ของรัฐบาล เพื่อป้องกันอุทกภัย อาจเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าว ไม่ได้เป็นการขัดขวางการทำฟลัดเวย์ และโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยแต่อย่างใด แต่อยากให้มีการดำเนินการอย่างรอบครอบ เพราะโครงการดังกล่าว อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประชาชนในอนาคต
นายนริศ ยังกล่าวอีกว่า ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดให้กิจกรรมที่ต้องทำอีไอเอ โดยเทียบเคียงกับโครงการเขื่อนกักเก็บน้ำ หรือ อ่างเก็บน้ำที่ต้องทำอีไอเอ คือเ ป็นโครงการที่มีปริมาตรกักเก็บน้ำ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่โครงการ 15 ตารางกิโลเมตร หรือ เปรียบเทียบกับโครงการชลประทาน ต้องมีพื้นที่ชลประทาน 80,000 ไร่ขึ้นไป ฉะนั้น โครงการฟลัดเวย์ ดังกล่าวนี้ ใหญ่กว่าโครงการอ่างเก็บน้ำ และชลประทานที่กำหนดให้ต้องทำอีไอเอหลายเท่า จึงน่าจะต้องทำอีไอเอ แก้มลิงที่ขุดลอกจากห้วย หนอง คลอง บึง เดิมอาจไม่ต้องทำอีไอเอ
นายนริศ ยังกล่าวอีกว่า ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดให้กิจกรรมที่ต้องทำอีไอเอ โดยเทียบเคียงกับโครงการเขื่อนกักเก็บน้ำ หรือ อ่างเก็บน้ำที่ต้องทำอีไอเอ คือเ ป็นโครงการที่มีปริมาตรกักเก็บน้ำ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่โครงการ 15 ตารางกิโลเมตร หรือ เปรียบเทียบกับโครงการชลประทาน ต้องมีพื้นที่ชลประทาน 80,000 ไร่ขึ้นไป ฉะนั้น โครงการฟลัดเวย์ ดังกล่าวนี้ ใหญ่กว่าโครงการอ่างเก็บน้ำ และชลประทานที่กำหนดให้ต้องทำอีไอเอหลายเท่า จึงน่าจะต้องทำอีไอเอ แก้มลิงที่ขุดลอกจากห้วย หนอง คลอง บึง เดิมอาจไม่ต้องทำอีไอเอ