“มูลนิธิเพื่อนหญิง” พาข้าราชการสาววัยใกล้เกษียณ สปส.ร้องกรรมการสิทธิฯ โวยถูกแอบอ้างชื่อและเบอร์โฆษณาขายบริการบนเว็บ สุดงงเจอ 38 ชายหื่นโทร.หา ยันแจ้งความแล้ว พบคนโพสต์ใช้คอมพ์ราชการที่ราชบุรี จี้นำคนผิดมาลงโทษ ด้าน กสม.เล็งซักปลัดแรงงานปล่อยผู้ใต้บังคับบัญชาถูกคุกคาม
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ได้พาข้าราชการบำนาญหญิง สำนักงานประกันสังคม อายุ 56 ปี เข้าร้องเรียนต่อนางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็ก สตรี และสิทธิความเสมอภาค กรณีถูกแอบอ้างชื่อและนำเบอร์โทรศัพท์ไปลงโฆษณาขายบริการทางเพศในเว็บไซต์หนึ่ง ในวันที่ 21 พ.ย.54 จนทำให้เกิดความเสียหาย
โดยข้าราชการบำนาญที่เป็นผู้เสียหายกล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้หลังจากวันที่ 21 พ.ย. 54 มีผู้ชายได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการขายบริการทางเพศกับตนถึง 38 ราย ซึ่งก็ได้ปฎิเสธไปและแปลกใจว่าเหตุใดถึงมีชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของตนไปปรากฏลงในเว็บไซต์ดังกล่าวได้ และได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในเรื่องหมายเลขประจำเครื่อง (IP) จนพบว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ที่สำนักงานประกันสังคม จ.ราชบุรี โดยขณะนี้ได้ติดต่อไปยังสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพื่อขอรหัสผ่านของบุคคลที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เมื่อไปยื่นทำการร้องเรียนก็กลับไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมายื่นเรื่องเพื่อขอให้กรรมการสิทธิฯ ติดตามเร่งรัดและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้นำคนผิดมาลงโทษทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีกฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและสตรี กลับปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
ด้าน นางวิสากล่าวว่า กรรมการสิทธิฯ จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาและตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงเอาคนผิดมาลงโทษ เบื้องต้นจะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อสอบถามความชัดเจน และนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาในชั้นอนุกรรมการฯต่อไป อย่างไรก็ตาม มองว่าปัญหาการคุกคามทางเพศยังอยู่คู่กับสังคมไทย เป็นวัฒนธรรมเชิงอำนาจนิยมที่เพศหญิงจะต้องตกเป็นเหยื่อของเพศชาย ในอดีตตนเคยทำงานในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็มีเรื่องร้องเรียนลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก จึงเข้าใจปัญหาและเห็นใจผู้เสียหาย ทั้งนี้ก็จะเร่งตรวจสอบเพื่อข้อเท็จจริงต่อไป
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ได้พาข้าราชการบำนาญหญิง สำนักงานประกันสังคม อายุ 56 ปี เข้าร้องเรียนต่อนางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็ก สตรี และสิทธิความเสมอภาค กรณีถูกแอบอ้างชื่อและนำเบอร์โทรศัพท์ไปลงโฆษณาขายบริการทางเพศในเว็บไซต์หนึ่ง ในวันที่ 21 พ.ย.54 จนทำให้เกิดความเสียหาย
โดยข้าราชการบำนาญที่เป็นผู้เสียหายกล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้หลังจากวันที่ 21 พ.ย. 54 มีผู้ชายได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการขายบริการทางเพศกับตนถึง 38 ราย ซึ่งก็ได้ปฎิเสธไปและแปลกใจว่าเหตุใดถึงมีชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของตนไปปรากฏลงในเว็บไซต์ดังกล่าวได้ และได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในเรื่องหมายเลขประจำเครื่อง (IP) จนพบว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ที่สำนักงานประกันสังคม จ.ราชบุรี โดยขณะนี้ได้ติดต่อไปยังสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพื่อขอรหัสผ่านของบุคคลที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เมื่อไปยื่นทำการร้องเรียนก็กลับไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมายื่นเรื่องเพื่อขอให้กรรมการสิทธิฯ ติดตามเร่งรัดและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้นำคนผิดมาลงโทษทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีกฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและสตรี กลับปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
ด้าน นางวิสากล่าวว่า กรรมการสิทธิฯ จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาและตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงเอาคนผิดมาลงโทษ เบื้องต้นจะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อสอบถามความชัดเจน และนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาในชั้นอนุกรรมการฯต่อไป อย่างไรก็ตาม มองว่าปัญหาการคุกคามทางเพศยังอยู่คู่กับสังคมไทย เป็นวัฒนธรรมเชิงอำนาจนิยมที่เพศหญิงจะต้องตกเป็นเหยื่อของเพศชาย ในอดีตตนเคยทำงานในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็มีเรื่องร้องเรียนลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก จึงเข้าใจปัญหาและเห็นใจผู้เสียหาย ทั้งนี้ก็จะเร่งตรวจสอบเพื่อข้อเท็จจริงต่อไป
