xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ชี้หาก “ปู” เพิกเฉยทบทวนตั้ง 2 รมต. ถือว่ายอมรับมีปัญหาจริยธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“มาร์ค” จี้นายกฯ ทบทวนตั้ง “นลินี-ณัฐวุฒิ” ระบุหากเพิกเฉยมติผู้ตรวจการฯ เท่ากับยอมรับมาตรฐานจริยธรรมต่ำ แขวะสื่อเครือมติชน มองปัญหาจริยธรรมเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะตัวเองไม่ยอมร้บผลสอบ ขาดจรรยาบรรณ ปลุกองค์กรสื่อต้องเข้มแข็งปกป้องผู้ร่วมวิชาชีพ

วันนี้ (8 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ชี้ว่าการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรี ไม่ขัดจริยธรรมถึงขั้นต้องถอดถอน แต่ไม่รอบคอบ และกระทบต่อเกียรติภูมิของประเทศว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมองว่าพฤติกรรมที่มีการร้องเรียนบุคคลทั้งสองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนดำรงตำแหน่ง จึงไม่พิจารณา แต่คนแต่งตั้งคือนายกรัฐมนตรีขาดความรอบคอบจึงให้กลับไปพิจารณาและชี้แจงกลับไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินภายใน 30 วัน ซึ่งตนเห็นว่า การชี้ถูกผิดเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย หรือต้องยึดกับเรื่องของการถอดถอนออกจากตำแหน่งเสมอไป เพราะในรัฐธรรมนูญก็กำหนดขั้นความผิดสูงสุดโดยเขียนว่าต้องผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินใช้ดุลพินิจว่ายังไม่ถึงขั้นถอดถอน แต่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรีควรต้องทบทวน ก็น่าจะเริ่มต้นจากตรงนี้ ไม่ใช่ยึดแค่ว่าถอดถอนหรือไม่ถอดถอนแล้วจบกันไป คงไม่ใช่ เพราะการทำผิดจริยธรรมสามารถแสดงความรับผิดชอบในทางอื่นได้ เช่น การตำหนิ หรือการขอโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มติของผู้ตรวจการแผ่นดินไร้เดียงสาเกินไปหรือไม่ที่ส่งเรื่องจริยธรรมกลับไปให้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ให้คุณค่ากับด้านจริยธรรมเป็นคนพิจารณาจริยธรรมของตัวเอง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บังอิญว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ก็คงไปที่อื่นไม่ได้ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ ถ้าไม่ทำอะไรหรือเพิกเฉยก็เป็นตัวบ่งบอกถึงมาตรฐานจริยธรรมของนายกรัฐมนตรี จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีและทุกฝ่ายในสังคมจริงจังต่อการวางบรรทัดฐานด้านจริยธรรม เพราะอย่างน้อยที่สุดการชี้ถูกชี้ผิดต้องมี ซึ่งสังคมต้องร่วมกันพิจารณา เพราะมีสื่อบางฉบับซึ่งตนไม่อยากเอ่ยชื่อ เสนอความเห็นว่าเป็นรื่องเล็กน้อย เห็นว่าเรื่องจริยธรรมไม่สำคัญ เพราะสื่อมวลชนดังกล่าวถูกสอบจรรยาบรรณก็ยังไม่ยอมรับผลที่ออกมา ใช้วิธีการลาออกจากองค์กรที่สอบ ดังนั้นถ้าสังคมยังเป็นอย่างนี้ หากไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องจริยธรรมก็ต้องพิจารณาว่าจะปล่อยให้สังคมเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือเปล่า

นายอภิสิทธิ์ยังแสดงความเป็นห่วง กรณีคนเสื้อแดงบุกไปคุกคามนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดังถึงที่ทำการ อสมท โดยเห็นว่าเป็นการคุกคามที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เกิดขึ้นกับบุคลากรสื่อสารมวลชนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐบาล มีความเป็นกลาง หรือแสดงความคิดเห็นที่กระทบรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะแสดงออกให้ชัดว่าไม่สนับสนุนเรื่องดังกล่าว โดยในขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้เห็นถึงความสำคัญในการปฏิรูปสื่อมวลชน และมีการพิจารณากฎหมายที่จะดูแลสื่อสารมวลชน โดยให้องค์กรวิชาชีพเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย แต่ยังไม่แล้วเสร็จโดยกฎหมายอยู่ระหว่างการพิารณาของกฤษฎีกา รัฐบาลก็พ้นวาระไปก่อน ทั้งนี้ ทางพรรคจะผลักดันเรื่องนี้ต่อเพราะเป็นนโยบายอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่หลักสำคัญคือองค์กรสื่อต้องดูแลกันเอง เพราะหากภาครัฐเข้าไปก้าวล่วงมากเกินไป ก็ไปเปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงอีกทางหนึ่ง ดังนั้น องค์กรสื่อต้องมีความเข้มแข็งในการปกป้องคนในวิชาชีพของตัวเอง ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามวิชาชีพของตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น