ชีพจรลงเท้าเสียจริงๆ สำหรับ “ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่หลังจากจบโปรแกรมทัวร์ในประเทศหลายทริป ก็เตรียมเหินฟ้าไปเยือน “แดนปลาดิบ” ประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 6-9 มี.ค.นี้ต่อทันที
แน่นอนว่า “เจแปนทัวร์” รอบนี้ ภารกิจหลักคงหนีไม่พ้นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหลัก รวมไปถึงการขยายความร่วมมือฟื้นฟู-พัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง 2 ชาติ หลังจากที่ถูก “ภัยพิบัติ” ถล่มร้ายแรงมาเช่นเดียวกันเมื่อปีกลาย โดยเฉพาะ “มหาอุทกภัย” ที่ถล่มประเทศไทยอย่างหนัก แต่ก็สะเทือนไปถึงผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นอย่างถ้วนหน้า เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลงทุนในไทยสูงที่สุด และได้รับความเสียหายเป็นอันดับหนึ่งเช่นเดียวกัน จนว่ากันว่าไลน์ผลิตสินค้าบางชนิด ต้องหยุดชะงักจากเหตุการณ์ในไทยไประยะหนึ่งเลยทีเดียว
งานนี้ “นายกฯปู” และชาวคณะ จึงต้องขนทีมชุดใหญ่ไปในลักษณะ “โรดโชว์”เรียกความเชื่อมั่นภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่น ในด้านการการค้าการลงทุน ตลอดจนไปถึงการวางภาพแผนงานป้องกันอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในปีนี้ และปีถัดๆไป เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้ประกอบการญี่ปุ่นจะไม่ตัดสินใจย้ายฐานผลิตอย่างที่หวั่นเกรงกัน
ผู้รับผิดชอบหลักอย่างเป็นทางการในการจัดโปรแกรม ก็ได้แก่“กระทรวงอุตสาหกรรม” โดยสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือที่รู้จักกันดีในนาม “บีโอไอ” ที่จัดแจงวางแผนการเยือนครั้งนี้มานานสองนาน รอเพียงการคอนเฟิร์มจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่ต้องนำเรื่องเข้าสู่สภาฯตามระเบียบพิธีการที่เคร่งครัด
จนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงได้ “ไฟเขียว” เตรียมต้อนรับคณะนายกฯไทยในฐานะอาคันตุกะ
ไล่เรียงโปรแกรมของ “ยิ่งลักษณ์” หลังจากร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้าเสร็จ จะจับเครื่องบืนต่อไปยัง“แดนซากุระ” ทันที คาดว่าจะเดินทางถึงในช่วงค่ำของวันนี้ และเข้าพักที่พระราชวังAkasaka ซึ่งเป็นบ้านพักรับรองของรัฐ ในกรุงโตเกียว ก่อนที่รุ่งขึ้นจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนานักธุรกิจ ที่จัดโดย “บีโอไอ” เบื้องต้นนักธุรกิจบุ๊คที่นั่งแล้วกว่าพันคน จากนั้นระหว่างวันจะมีทั้งรัฐมนตรี นักธุรกิจเข้าเยี่ยมคารวะหารือข้อธุรกิจตลอดทั้งวัน ช่วงเย็นย่ำของวันแรก จะเป็นการหารือกับ “โยชิฮิโกะ โนดะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แบบเต็มคณะ ที่ทำเนียบรัฐบาลญี่ปุ่น และจะออกแถลงการณ์ร่วมกันที่จะมีความร่วมมือในระดับทวิภาคีด้านต่างๆ
สำหรับโปรแกรมวันที่ 8 มี.ค.ซึ่งเป็นวันที่ 3 นอกจากการพบปะกับสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นแล้ว ยังมีการภารกิจสำคัญในการเข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมารญี่ปุ่น ณ พระราชวังอิมพีเรียล ก่อนออกเดินทางด้วยเครื่องบินตรงไป จ.มิยากิ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ แล้วจึงกลับมาเปิดงาน “ไทยไนท์” (Thai Night)ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ “ทริปญี่ปุ่น” ครั้งนี้ ที่จัดโดย “บีโอไอ” ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมส่งเสริมการส่งออก
ที่ว่ามีความสำคัญเนื่องจากงานนี้ได้ดึง “บัวขาว ป.ประมุข” นักมวยไทยที่โด่งดังเป็นพลุแตกในญี่ปุ่น ให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของงาน เพื่อแสดงถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งของประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunity”
ถัดมาไฮไลท์สำคัญในวันสุดท้าย จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจชั้นนำระดับ “ซีอีโอ” ของประเทศญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยเข้าหารือเป็นรายบุคคล รายละ 15 นาที โดยมีบริษัทชั้นนำตอบรับแล้วกว่า10 รายจะเน้นด้านความคืบหน้าของการฟื้นตัวภาคอุตสาหกรรมไทย และแผนเพิ่มการลงทุน เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเหินฟ้ากลุ่มมาตุภูมิ
เสร็จสรรพจบ “เจแปนทริป” ของนายกฯนกแก้วแบบสวยงามตามที่ “ผู้กำกับ” วางไว้เป๊ะ
หน้าฉากงานนี้แน่นอนว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดย “ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์” เจ้ากระทรวง รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพหลัก แต่เมื่อหากเจาะลึกตามโปรแกรมที่วางไว้ เชื่อว่า “ผู้กำกับ” หรือ “ดีลเมกเกอร์” งานนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” แกนนำพรรคชาติพัฒนา
แม้วันนี้จะยังไม่มีตำแหน่งแห่งที่ทางการเมือง แต่อาศัยความสัมพันธ์ระดับ “ซูเปอร์คอนเนกชัน” จัดโปรแกรมให้คณะผู้นำประเทศลงในจุดเน้นๆ หวังเรียกแต้มทำคะแนนกับภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่น จากที่ตัวเองเคยเดินสาย “ปลอบประโลม” เพื่อนนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น จนมัดใจให้ “บิ๊กปลาดิบ”ลงหลักปักฐานในประเทศไทยต่อไปสำเร็จมาแล้ว เมื่อช่วงปลายปีก่อน
รวมทั้งการดึง “แม่เหล็ก” อย่าง“บัวขาว” เข้ามาร่วมด้วย ก็เข้าคอนเซปต์ของ “สุวัจน์” ที่มักดึงกีฬามาผสมโรงกับงานการเมืองได้อย่างเนียนตา
เรียกได้ว่า “อุ่นเครื่อง” ก่อนกลับสู่สนามจริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อีกเรื่องที่ต้องจับตา เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมามีการ “ตีปิ๊บ” โดย “ตุ๊ดตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำ นปช.ผ่าน DNN ทีวีเสื้อแดง ว่า “ภารกิจแฝง” ที่ “ยิ่งลักษณ์”บุกไปเยือนญี่ปุ่นหนนี้จะมีการนำ “เงินเยียวยา 7.75 ล้าน” ที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ครม.ในวันนี้ตามข้อเสนอของ ปคอป. ไปมอบให้แก่ครอบครัวของ “ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ” ช่างภาพทีวีรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตกลาง “สมรภูมิคอกวัว” เมื่อเดือน เม.ย.53 เนื่องจาก ปคอป. เพิ่งแถลงว่า “ฮิโรยูกิ” เป็น 1 ใน 102 รายที่จะได้เงินชดเชยเยียวยาจากเหตุการณ์ 7.75 ล้านบาท
นัยว่าการันตีให้ “คนเสื้อแดง” มั่นใจว่า “จ่ายจริง แจกกันถึงที่”
ถึงนาทีนี้จากการตรวจสอบโปรแกรมของ “ยิ่งลักษณ์” ณ แดนญี่ปุ่น ยังไม่พบภารกิจดังกล่าวแทรกเข้ามา เนื่องจากอาจดูผิดเพี้ยนไปจากวัตถุประสงค์ของการไปเยือนต่างแดนพอสมควร ที่สำคัญยังเป็น “เรื่องเล็ก” ที่ “ยิ่งลักษณ์” ไม่จำเป็นต้องออกหน้าด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
แต่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ หากต้องการหวังผลทางการเมือง จึงเชื่อว่าเมื่อถึง “หน้างาน” อาจคนจัดแจงสอดแทรกคิวเข้ามาในบางช่วงบางตอนได้เหมือนกัน
เพราะเชื่อว่าจะเป็นการ “หาเสียง” กับคนเสื้อแดงแบบข้ามประเทศเลยทีเดียว
