xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ตั้งกระทู้ซัดงบซ่อมถนน จากเหตุอุทกภัยสูงเกินจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

                พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก
ที่ประชุมวุฒิฯ ตั้งกระทู้ถามแผนฟื้นฟูระบบโครงสร้างสร้างพื้นฐาน จากเหตุอุทกภัย ชี้งบฟื้นฟู ถนน 1.1 หมื่นล้าน 708 สาย สูงเกินจริง ด้าน “ชัจจ์” ยันไม่ทราบรายละเอียดโครงการซ่อม ถ.ช่วงบางปะอิน-นครหลวง มูลค่า 165 ลบ.พร้อมรับข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้ (5 มี.ค.)ในการประชุมวุฒิสภา ช่วงกระทู้ถาม นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา ได้ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ต่อประเด็นการติดตามผลการทำงานของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา พบว่า มีถนนประมาณ 708 สาย ที่ต้องได้รับการซ่อมแซม เบื้องต้นพบว่า ต้องใช้งบประมาณเพื่อซ่อมแซม ถนน 708 สาย เป็นเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามตรวจสอบการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ของวุฒิสภา ได้สุ่มตรวจถนนในหลายเส้นทางและพบข้อมูลที่ผิดปกติ เช่น บางเส้นทางที่ใช้งบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น และบางเส้นทางไม่ใช่การซ่อมแซม หรือฟื้นฟู ตามหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนด เช่น ทางหลวงหมายเลข 32 ช่วงบางปะอิน-นครหลวง ซึ่งเป็นทางคอนกรีต ไม่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย แต่พบว่ามีการเทแอดเฟาว์ติก หรือ ยางมะตอย หนา 10-30 ซม.ทับหน้าคอนกรีต เป็นระยะทาง 10 กม.เป็นมูลค่า 165 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า เพื่อช่วยให้น้ำไหลจากกลางถนนลงสู่ข้างทางได้สะดวก, ทางหลวงหมายเลข 346 สะพานนนทบุรี-ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 พบการเทแอดเฟาว์ติกทับหน้าถนนเช่นเดียวกัน ทั้งที่เส้นทางดังกล่าวนั้นเพิ่มสร้างมาได้ไม่กี่ปี ยังไม่มีความเสียหาย ยกเว้นไหล่ทางบางช่วงเท่านั้น จึงไม่น่าจะใช่โครงการที่จำเป็นเร่งด่วนภายใต้แผนฟื้นฟู

“จากข้อเท็จจริงที่พบ คณะอนุกรรมาธิการ กังวลว่า หน่วยงานที่ทำโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรีนั้น ทำให้การจัดทำโครงการไม่รอบคอบ หรือมีการตั้งงบประมาณเกินความจำเป็นได้ นอกจากนี้ หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติงบประมาณ ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดในโครงการที่เสนอมาหลายพันโครงการได้อย่างละเอียด เป็นผลทำให้หลายโครงการเกิดความไม่เหมาะสมและใช้งบประมาณโดยไม่จำเป็นได้” นายพิเชต กล่าว

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ประเด็นที่กล่าวมานั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ดังนั้นตนขอรับข้อมูลดังกล่าวเพื่อไปตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตามโดยปกติการเบิกงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบความเสียหายก่อน และมีการยืนยันว่าเสียหายจริง ก่อนที่นำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วจึงส่งให้สำนักงบประมาณตรวจสอบก่อนเบิกจ่ายงบประมาณให้ดำเนินการ

“จากสถานการณ์น้ำท่วม ถนนบางสายที่ถูกน้ำท่วมขังนานไม่สามารถดูด้วยตาเปล่า ว่า โครงสร้างเสียหายหรือไม่ ทำให้ทางหลวงชนบทต้องขุดแล้วทำใหม่ เพราะโครงสร้างพื้นฐานส่วนรากนั้นล้มเหลว ชำรุด กรณีที่ ส.ว.บอกจะขอรับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น