กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฝั่ง ปชป.โต้ กมธ.ฝั่งเพื่อไทยโจมตีต้องการดึงเกมยื้อเวลาแก้ไข ม.291 ชี้ควรรอศาล รธน.ชี้ขาดก่อน โดยเฉพาะการยื่นตีความวรรคสอง หากให้ กมธ.ดำเนินการไปก่อนแล้วศาลวินิจฉัยขัดต่อ รธน.รัฐบาลต้องรับผิดชอบ แนะให้ ส.ส.ร. ปี 40 และ 50 รวมใทั้งนักวิชาการให้ความเห็นรอบด้าน ไม่ควรประมาทหรือดูถูกกลุ่มเห็นต่าง
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม กรรมาธิการจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่ากรรมาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการดึงเกมให้ล่าช้า หวังยื้อเวลาการพิจารณาการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ออกไปว่า ทางกรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีเจตนาดังกล่าว เพียงแต่ต้องการให้รับฟังปัญหาจากรอบด้านก่อน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ
โดยเฉพาะประเด็นการยื่นตีความมาตรา 291 วรรคสอง ที่จะให้อำนาจ ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ จึงอยากให้รอศาลรัฐธรรมนูญตีความประเด็นก่อน เพราะหากกรรมาธิการใช้เสียงข้างมากดำเนินการไปก่อน และศาลวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบทางการเมือง นอกจากนี้ ต้องการให้อดีต ส.ส.ร.ปี 2540 และ ส.ส.ร.ปี 2550 รวมถึงนักวิชาการมาให้ความเห็นกับกรรมาธิการรอบด้าน เพราะหากกรรมาธิการไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่นแล้วปิดประตู ดำเนินการไม่ฟังเสียงผู้ใดจะทำให้เกิดปัญหาไม่รู้จบ เพราะขณะนี้มีกลุ่มที่ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรมนูญขึ้นมาเรื่อยๆ
“โดยเฉพาะในวันที่ 10 มี.ค.นี้จะมีการชุมนุมในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทางกลุ่มเห็นต่างมีการรวมตัวกันมากขึ้น เป็นยุทธศาสตร์ไผ่แตกกอ เชื่อว่าเมื่อมีการรวมกันได้ก็จะเกิดความเข้มแข็ง ดังนั้น รัฐบาลไมควรประมาท หรือดูถูกกลุ่มเห็นต่าง โดยเฉพาะต้องพิจารณาผลโพลจากสำนักต่างๆ ที่เริ่มออกมาไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ฟังแต่โพลจากดูไบเท่านั้น” นายเทพไทกล่าว
