เครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน นำโดย น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แสดงตนต่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ในการที่จะรวบรวมล่าชื่อประชาชน 20,000 รายชื่อ ให้วุฒิสภามีมติถอดถอนคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา รวมจำนวน 390 คน ที่รับรองหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ และมีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ ในส่วนของการเรียกประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ ทางกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 11 คน ได้หารือเตรียมความพร้อมเพื่อร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้
ซึ่ง นายเทพไท เสนพงศ์ กรรมาธิการ ระบุว่า จะจับตาดูว่าฝ่ายรัฐบาลจะผลักดันให้ใคร ขึ้นมาเป็นประธานกรรมาธิการ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางของการแก้ไข และจะมีผลต่อบรรยากาศการประชุม ว่าจะเปิดโอกาสให้กรรมาธิการเสียงข้างน้อยมีบทบาทในตำแหน่งสำคัญของกรรมาธิการเพียงใด
ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการจะเสนอแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติมเป็นหลักอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกเป็นการแปรญัตติในภาพรวมต่อข้อห่วงใยที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพื่อปัญหาวาระผลประโยชน์แอบแฝง และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จะต้องยึดเอาหมวดพระมหากษัตริย์ หรือ หมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นบทหลักที่เกี่ยวกับประเทศ โดยไม่มีการแก้ไข
ซึ่ง นายเทพไท เสนพงศ์ กรรมาธิการ ระบุว่า จะจับตาดูว่าฝ่ายรัฐบาลจะผลักดันให้ใคร ขึ้นมาเป็นประธานกรรมาธิการ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางของการแก้ไข และจะมีผลต่อบรรยากาศการประชุม ว่าจะเปิดโอกาสให้กรรมาธิการเสียงข้างน้อยมีบทบาทในตำแหน่งสำคัญของกรรมาธิการเพียงใด
ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการจะเสนอแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติมเป็นหลักอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกเป็นการแปรญัตติในภาพรวมต่อข้อห่วงใยที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพื่อปัญหาวาระผลประโยชน์แอบแฝง และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จะต้องยึดเอาหมวดพระมหากษัตริย์ หรือ หมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นบทหลักที่เกี่ยวกับประเทศ โดยไม่มีการแก้ไข