พท.เฉ่ง “หมอตุลย์” ค้านไปหมด ก้าวไม่พ้น “นช.แม้ว” จี้รับฟังเสียงส่วนใหญ่ ด้าน “หมวดเจี๊ยบ” แขวะ ปชป. “อนุบาล 4 อ.” พร้อมถล่ม กทม.ไม่ให้ความร่วมมือรัฐบาลป้องกันน้ำท่วม โวย ส.ก.และ ส.ข.เพื่อไทยถูกแกล้งรื้อป้ายประชาสัมพันธ์ผลงาน เตรียมเล่นงานทางกฎหมาย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันอังคารนี้พรรคเพื่อไทยงดการประชุมพรรค เพื่อให้ ส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชนทำความเข้าใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ส่วนการชุมนุมคัดค้านการแก้ไรัฐธรรมนูญ ด้วยวิธีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ช่วงที่ผ่านมาได้มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อหลากสี นำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการตั้ง ส.ส.ร. แต่บอกว่าการแก้ไข ส.ส.สามารถเข้าชื่อแก้ไขได้ ไม่จำเป็นต้องตั้ง ส.ส.ร. ตนจึงแปลกใจมากว่าประเทศไทยต้องเป็นแบบไหนคนกลุ่มนี้ถึงจะพอใจ เราตั้ง ส.ส.ร.ผ่านการเลือกตั้งและสรรหา 99 คน ก็ไม่พอใจ แต่ให้ส.ส.ทำกันเองก็บอกว่าหมกเม็ดเป็นเผด็จการ อยากรู้ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่
นายจิรายุกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ตุลย์ก็เคยบอกว่ารัฐธรรมนูญ 50 แก้ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มเดิมๆ ที่ไม่ชอบและก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ แต่จะค้านทุกเรื่อง ซึ่งที่จริงแล้วสิ่งที่เป็นประโยชน์คนเหล่านี้ก็ควรจะเห็นด้วย เป็นอย่างนี้เพื่อนบ้านชาวต่างชาติจะหัวเราะประเทศไทยที่ยังมีแต่ปัญหาทะเลาะกันไม่จบ เศรษฐกิจก็จะแย่ มีผลต่อการจะเป็นผู้นำอาเซียน ตอนนี้หมดเวลาที่จะทะเลาะกันแล้ว อะไรที่เห็นไม่ตรงกัน ผ่านมาแล้วก็อโหสิกรรมกันและรับฟังเสียงส่วนใหญ่จะดีกว่า
นายจิรายุกล่าวว่า ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมรับมติสภาและเสียงประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับจะให้มีการตีความว่าการแก้ไขมาตรา 291 ให้มี ส.ส.ร.ทำได้หรือไม่ ทั้งๆที่ทุกฝ่ายในบ้านเมืองก็เห็นด้วย มีการตั้งกรรมการต่างๆ ขึ้นมาเพื่อทำงานควบคู่ไปกับ ส.ส.ร. และคงจะมีข้อเสนอแนะต่างๆ ออกมา ซึ่งก็เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย และยังมีการบอกว่าพรรคเพื่อไทยมีการตั้งธงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราเน้นย้ำหลายครั้งแล้วในเรื่องนี้ ว่าเราดำเนินการเปิดทางให้มี ส.ส.ร. ส่วนการทำงานก็คงต้องติดตามกันต่อไป อยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับความจริง ไม่ใช่ค้านอยู่ร่ำไป อะไรไม่ควรค้านก็อย่าค้านเลย
นายจิรายุยังเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับความจริง และยอมเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการลงมติในการประชุมร่วมรัฐสภามี ส.ส.ของฝ่ายค้านหลายคนก็ลงมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย รวมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มคัดค้านมองถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก เนื่องจากเกรงว่ายิ่งคนในชาติทะเลาะกันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ และกระทบต่อการต่อสู้ในเวทีระดับโลก
ด้าน ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เสริมว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้ประเมินการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะเคลื่อนไหวในเรื่องเดิมๆ อาทิ เรื่องของการปฏิบัติภารกิจ ว.5 ของนายกรัฐมนตรี โดยทีมยุทธศาสตร์มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่นึกถึงประโยชน์ของชาติ และไม่มีความสร้างสรรค์ในการเสนอแนวคิด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอตั้งฉายาการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “อนุบาล 4 อ.”
1. อคติ ค้านทุกเรื่องไม่ว่าจะมีประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ 2. อ้างมั่ว โดยพรรคประชาธิปัตย์มักอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี 3. อธรรม พรรคประชาธิปัตย์มีทัศนคติทางลบในทุกเรื่อง โดยพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้คนไทยทะเลาะกันขัดขว้างการเข้าสู่กระบวนการปรองดอง และ อ. ที่ 4. คือ เอาดีทางการเมืองโดยอาศัยเรื่องใต้กระโปรงของผู้หญิงเป็นเครื่องมือ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่า เสียใจแทนประชาชนที่ประเทศไทยไม่มีพรรคฝ่ายค้านคุณภาพที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชนอย่างจริง ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลต้องทำหน้าที่บริหาร และตรวจสอบการทำงานของตัวเองแทนฝ่ายค้านด้วย
นายจิรายุกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ขุดลอกคูคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่รู้สึกอึดอัดกับการทำงานของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ไม่ประสานการทำงานร่วมกับรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้นายธีรชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หยุดวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และขอให้ดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างเต็มที่ รวมทั้งควรให้คำตอบกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่าในปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพมหานครอย่างไร
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการเยียวยาครัวเรือนละ 5 พันบาทให้กับผู้ประสบปัญหาอุทกภัย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนมาว่า มีหลายเขตที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งที่รัฐบาลได้อนุมัติเงินช่วยเหลือไปแล้ว
นายจิรายุยังอ้างว่าพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากกระทรวงคมนาคม กรณีที่นายธีรชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องโฮปเวลล์ ทั้งที่เป็นงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้นายธีรชนใช้เวลาในการทำงานในการตรวจสอบการทุจริตในหน่วยงานแพทย์ของกรุงเทพมหานคร ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ชี้มูลความผิดว่าอาจจะมีผู้บริหารของกรุงเทพมหานครบางคนเกี่ยวข้องกับทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมือทางการแพทย์ของโรงพยาบาลวชิระ อย่างไรก็ตาม สำนักงานปราบโกง พรรคเพื่อไทยจะตรวจสอบคู่ขนานกับดีเอสไอไปด้วย
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะครบวาระในสิ้นปีนี้ นายจิรายุเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค เป็นประธานคณะกรรมการเตรียมความพร้อม รวมทั้งมีอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร และอดีตผู้อำนวยการเขตรวมเป็นทีมงานด้วย โดยทีมงานจะใช้แนวทางปรับ เปลี่ยน เพิ่ม และเติมให้กับกรุงเทพมหานครซึ่งนำข้อมูลจากการวิเคราะห์ผลงานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นตัวตั้ง
นายจิรายุยังเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนว่า มีคำสั่งให้ข้าราชการของกรุงเทพมหานคร รื้อป้ายโฆษณาผลงานของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. และสมาชิกสภาเขตของพรรคเพื่อไทย หรือ ส.ข. ทั้งนี้ เบื้องต้นได้สั่งให้ ส.ก.และส.ข. เก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมเรียกร้องไปยังข้าราชการของกรุงเทพมหานครให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา