“แก้วสรร” เผยซื้อที่ทับ “ฟลัดเวย์” โยงโฟร์ซีซั่นส์ “ตุลย์” ค้านตั้ง ส.ส.ร.

“หมอตุลย์” ชี้แก้ รธน.ไม่จำเป็นต้องตั้ง ส.ส.ร. หวั่นเป็นร่างทรงนักการเมือง และกฏหมายให้อำนาจ ส.ส.ยื่นแก้ไขได้อยู่แล้ว ระบุให้ชัดจะแก้มาตราใดแล้วเปิดเผยต่อประชาชน “แก้วสรร” ปูดกรณีโฟร์ซีซั่นส์ พัวพันซื้อที่ดินทับฟลัดเวย์

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี กล่าวในรายการ “คมชัดลึก” ทางเนชั่นแชนแนล ระบุว่า ประเด็นที่ทางกลุ่มคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ยอมไม่ได้ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาอย่างสง่าผ่าเผย ตามที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ รวมถึงประเด็นการแก้ไขเพื่อรวบอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ

นพ.ตุลย์กล่าวว่า หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ก็สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. เพราะในมาตรา 291 ได้ให้อำนาจ ส.ส.สามารถยื่นขอแก้ไขหรือเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ เปิดเผยต่อประชาชนว่าจะแก้ไขมาตราใด อย่างไร สามารถเปิดกว้างเพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนได้ โดยไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ร. แต่ตอนนี้ไปให้อำนาจไว้กับ ส.ส.ร. และยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขมาตราใด และการเลือก ส.ส.ร.ตามพื้นที่การเมือง ก็เห็นชัดว่า ส.ส.ร.จะได้มาจากพรรคใดบ้าง

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวว่า จุดยืนของตนคือรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มาจากการรัฐประหาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญถ้าให้มีการเลือก ส.ส.ร.ขึ้นมา แล้วเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน อาจจะมีนักวิชาการเข้ามาช่วยร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นก็ให้ลงประชามติรับหรือไม่รับร่าง และยืนยันว่าจำเป็นต้องมีสสร. โดยต้องทำให้กระบวนการเลือกตั้งแข็งแรง ยอมรับว่ามีการใช้เงินอยู่บ้าง กลุ่มคนมีอิทธิพล มีอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าคนที่เลือก ส.ส.กับเลือก ส.ส.ร.จะเลือกบนพื้นฐานที่ต่างกัน ในทางปฏิบัติพรรคการเมืองก็อาจจะหนุนอยู่บ้าง แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง

นพ.ตุลย์กล่าวว่า หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนเสนอให้แก้ไขตามอำนาจที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ โดยเสนอว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมมาตราใด แล้วเปิดเผยต่อประชาชน จุดอ่อนของการแก้ไขโดย ส.ส.ร.เหมือนตีเช็คเปล่าให้ โดยไม่รู้ว่าเขาจะแก้ไขอะไรบ้าง

นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบกากระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวในงานเสวนาเรื่อง​ “เสวนาประชาชน คัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจเพื่อทักษิณ” ที่บริเวณอาคารลุมพินีสถาน สวนลุมพินี ว่าหากปล่อยให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาก็จะพ้นจากคดีความที่ถูกตัดสินไปแล้ว และยังมีคดีสำคัญที่ คตส.ทำเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ ซึ่งเชื่อมโยงกับเรื่องที่โฟร์ซีซันส์ คือ ธนาคารกรุงไทยไปปล่อยกู้เงิน 8 พันล้านบาท ให้กับหมู่บ้านกฤษฎานคร เพื่อไปชำระหนี้เงินกู้ที่ดิน 4 พันไร่ มูลค่า 6 พันล้านบาทให้กับธนาคารกรุงเทพฯ บริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ฟลัดเวย์ตามโครงการระบายน้ำของในหลวง แต่ปรากฏว่ามีการนำเงินกู้ส่วนที่เหลืออีก 2 พันล้านบาทไปให้กับลูกชายอดีตนายกฯ และแม่ของเลขาฯ ส่วนตัวอดีตภรรยานายกฯ​ รวมกัน 100 ล้านบาท

นายแก้วสรรกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ดินดังกล่าวน้ำไม่ท่วมทั้งปีนี้และปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เชื่อมโยงกับกรณีที่นายกฯ ไปคุยที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ซึ่งเชื่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาสิ่งแรกที่จะทำคือออกกฎหมายเพื่อลบล้างคดีนี้ แต่เชื่อว่าจะมีการยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญให้กฎหมายนี้ตกไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเขียนบอกว่าสิ่งที่ คตส.เป็นผู้ไต่สวนให้ตกเป็นโมฆะให้หมดไป นอกจากนี้ หากกลับมาพลังงานธรรมชาติในพื้นที่รอบอ่าวไทย และพื้นที่ทับซ้อนก็จะตกเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด พร้อมทั้งยังมีเรื่องความสามานย์ที่จะสามารถขู่ ดักฟัง หรือยิงทิ้งพวกเราได้ทั้งหมด ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันการยึดประเทศอยู่ใต้เท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเราจะไม่มีอนาคตเหลือเลย