กกต.มีมติจัดสรรงบประมาณสนับสนุน 7 พรรคการเมือง วงเงิน 94.2 ล้านบาท เพื่อไทย รับมากสุด 40 ล้านบาท ประชาธิปัตย์ 38 ล้านบาท
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.ได้มีมติเห็นชอบการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับพรรคการเมือง ตามที่คณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ได้มีมติเห็นชอบวงเงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามแผนการดำเนินงานของพรรคการเมือง ประจำปี 2555 จำนวน 7 พรรค รวม 76 โครงการ รวมวงเงิน 94,279,720 บาท ได้แก่ 1. พรรคเพื่อไทย จำนวน 40,686,900 บาท 2. พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 38,393,400 บาท 3. พรรคภูมิใจไทย จำนวน 6,756,800 บาท 4. พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน 3,575,400 บาท 5. พรรคชาติพัฒนา จำนวน 2,535,000 บาท 6.พรรครักประเทศไทย จำนวน 1,321,920 บาท และ 7. พรรคมาตุภูมิ จำนวน 1,010,300 บาท
สำหรับการสนับสนุนงบประมาณให้กับพรรคการเมือง เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 75 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง พ.ศ. 2554 ข้อ 35 ที่กำหนดให้จัดสรรเงินให้แก่พรรคการเมืองเป็นรายปีให้แก่พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหลังสุดโดยได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองทุกพรรคได้รับในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อรวมกัน หรือได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของคะแนนเสียงที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนได้รับในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งรวมกันทั้งประเทศ และเป็นพรรคการเมืองที่ได้ดำเนินการครบถ้วนตามมาตรา 26 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550
ส่วนหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกำหนดให้จัดสรรเงินตามจำนวนคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อร้อยละ 40 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่จัดสรร คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งร้อยละ 40 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่จัดสรร สาขาพรรคการเมืองซึ่งมีลักษณะตามที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งกำหนดร้อยละ 10 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่จัดสรร และจำนวนสมาชิกซึ่งชำระค่าบำรุงรายปีร้อยละ 10 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่จัดสรร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดแต่จะจัดสรรให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของวงเงินทั้งหมดที่จัดสรรในปีนั้นไม่ได้
