xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ยึดพระราชดำริรอบคอบปล่อยน้ำ มี.ค.ลงพื้นที่ปลายน้ำคุมลอกคลอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
"ยิ่งลักษณ์” ยึดแนวพระราชดำริกำชับกระทรวงเกษตรฯ รอบคอบ ควบคุมปล่อยน้ำจากเขื่อน หนุนแนวคิด กยอ.ตั้งบรรษัทดูแลปลูกป่า ดึงประชาชน-เอกชน-ท้องถิ่น ร่วมภาครัฐ ปลูกจิตสำนึกความเป็นเจ้าของ แถมมีรายได้มากขึ้นในอนาคต เผยมีนาฯ ลงพื้นที่ปลายน้ำ ติดตามความคืบหน้าขุดลอกคูคลอง รับเป็นห่วงการจัดซื้อจัดจ้าง เหตุติดระเบียบราชการใช้เวลานาน สั่งกรมบัญชีกลางทบทวนวิธีการให้เร็วขึ้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ปรับในเรื่องของระบบการระบายยน้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วการระบายน้ำในเขื่อนได้เน้นให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทานระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งได้สั่งการไปนานแล้ว ขณะเดียวกันการระบายน้ำในแต่ละวันได้กำชับให้ดูความรอบคอบ โดยพยายามให้น้ำใช้อย่างมีประโยชน์ด้านเกษตรกรรมด้วย

“การปล่อยน้ำยังอยู่ในระดับนี้ แต่จะมีการทบทวนตัวเลขกันทุกเดือน ซึ่งอาจจะไม่ถึง 45% และในความเป็นจริงตัวเลข 45% ไม่ได้หมายความว่า จะใช้ทุกเขื่อน เพราะบางเขื่อนอยู่ที่ 50% บางเขื่อน 60% ซึ่งปลายทางกรมชลประทานจะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ที่กำหนด 45% นั้น เป็นเขื่อนสิริกิติ์ และ ภูมิพล แต่จากการติดตามดูสถานการณ์อาจมีปัญหาเรื่องน้ำแล้ง จึงอาจจะต้องดูและทบทวน”

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้คงต้องให้มีการะบายไปก่อน เพื่อเตรียมรองรับทั้ง 2 สถานการณ์ ส่วนพื้นที่รับน้ำ 2 ล้านไร่ ประมาณสิ้นเดือน ก.พ.นี้ กระทรวงเกษตรฯจะเข้ามารายงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีปัญหาตรงไหนที่รัฐบาลยังห่วง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงเนื่องจากงบประมาณบางส่วนเพิ่งได้ไป ซึ่งจะต้องมีเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง และโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เวลา เนื่องจากระเบียบราชการใช้เวลาค่อนข้างนานในการที่จัดซื้อ ซึ่งได้ให้ทางกรมบัญชีกลางเข้าไปทบทวนวิธีการให้เร็วขึ้น แต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบได้ และโปร่งใสรัดกุม เราจะมีระบบในการติดตามการทำงาน ตรงนี้คือสิ่งที่ห่วงจะทำให้การทำงานช้า จึงได้สั่งการให้เร่งรัดทุกกระทรวงและทุกจังหวัดในการเร่งดำเนินการให้ทัน

เมื่อถามว่า มั่นใจว่า ทุกหน่วยงานได้บูรณาการร่วมกันที่จะมาแก้ไขปัญหาน้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้บูรณาการแล้ว ซึ่งจากการลงพื้นที่มีทั้งกระทรวง และจังหวัด และในวันนี้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ กนอช.แล้ว ซึ่งจะรับแผนทั้งหมด และปรับแผนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะมีการสื่อสารให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

ส่วนที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เสนอให้มีการตั้งบรรษัทพัฒนาเพื่อดูแลในเรื่องของการปลูกป่า เป็นการถือหุ้น 4 ฝ่าย ประกอบด้วย รัฐบาล เอกชน ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายละ 25% น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของทาง กยอ.ซึ่งคงต้องไปคุยดู แต่ถือเป็นแนวทางที่ดี ทั้งนี้ ต้องแล้วแต่ความสมัครใจ เพราะเนื่องจากการปลูกป่าเป็นลักษณะที่ต้องดูแลระยะยาว ดังนั้น อยากให้ชาวบ้านถือว่า การปลูกป่าเหมือนมีความเป็นเจ้าของที่สำคัญสามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงแผนที่ฟลัดเวย์ที่ออกมาเป็นข่าวในขณะนี้ของจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จากการคุยกันวัตถุประสงค์แรกในการระบายน้ำต้องการใช้ระบายน้ำทางเขื่อนเป็นหลักรวมทั้งคูคลองที่เหลือจะไปเชื่อมทางลุ่มน้ำ และพื้นที่รับน้ำคือพื้นที่เกษตรกรรม ฉะนั้นบนถนนที่บอกว่าเป็นฟลัดเวย์เราจะใช้น้อยมาก จะใช้ในกรณีที่เกิดความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่สรุปแต่แผนที่ที่ออกมายอมรับว่า ใช่ แต่ไม่ใช่ฟลัดเวย์ เป็นแผนที่ที่ชี้ให้เห็นว่า เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมบ่อย แต่เราจะระบายทางคูคลอง และบริหารน้ำเป็น 3 ช่วง โดยช่วงบนจะเป็นเขื่อน ส่วนช่วงที่ 2 ตอนกลางจะส่งน้ำจากคูคลองต่างๆ ไปตามแก้มลิงตามธรรมชาติที่มีอยู่ โดยเราจะไปบำรุงรักษา และขุดลอกให้เก็บน้ำได้มากขึ้น และมาต่อยังพื้นที่ 2 ล้านไร่

ส่วนระยะเวลาในการเตรียมการจะทันฤดูการรับน้ำที่จะมาถึงหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่รับน้ำต่างๆ เราวางแผนให้ทัน ส่วนพื้นที่ปลายน้ำเดือนหน้าจะไปดูเรื่องการขุดคลอง โดยจะใช้หน่วยงานจริงลงไปสำรวจหน้างานในทุกคูคลองที่เป็นจุดสำคัญๆ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของงานในทุกหน่วยงาน สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯถือว่ายังเริ่มไปได้ไม่เยอะ แต่จากการติดตามก็ได้เริ่มไปหลายคลองแล้ว ส่วนจะเสร็จทั้งหมดหรือไม่ต้องรอการรายงานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าถึงการจ่ายเงินเยียวยาที่บางพื้นที่ยังจ่ายไม่แล้วเสร็จ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องเร่งสำรวจ

กำลังโหลดความคิดเห็น