“ชวนนท์” ท้า “กิตติรัตน์” กล้ายืนยันอยู่ชั้น 7 ร่วม “ยิ่งลักษณ์” หรือไม่ แฉสัมพันธ์ลึกแสนสิริ จี้ เปิดข้อมูลเพื่อความเป็นธรรม - ชูภาพ “ปู” เมาซบ “จอมตะกายตึก” โยงดื่มเป็นปกติหรือเปล่า เชื่อ นายกฯ ถนัดปาร์ตี้เลยไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ จวกผิดศีลครบ ระบุ ถ้าเป็นญี่ปุ่นลาออกไปนานแล้ว ด้าน “เทพไท” ยัน “เฉลิม” เมาชัด ชี้ ถ้า กก.จริยธรรมสอบจริง ไม่ยาก แค่ตามแก๊งไวน์แดง
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่า ที่สื่อมวลชนบางฉบับรายงานชัดเจนถึงการจัดผังเมือง 31 จังหวัด เพื่อรับฟลัดเวย์ถือเป็นแผนที่หลุดออกมาของคณะกรรมการนโยบายน้ำ (กยน.) ซึ่งบุคคลที่อยู่ในโฟรซีซั่นส์รับรู้ถึงแผนของ กยน.และคนที่เป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ สามารถรับรู้การปรับราคาที่ดิน จึงถือเป็นใบเสร็จที่ยืนยันว่า เหตุการณ์วันนั้นมีความต้องการรับรู้ผังที่ดินใหม่ ซึ่งตนกล้ารับประกันว่า คนที่รู้สามารถหาผลประโยชน์ได้เท่าทวีคูณ
นายชวนนท์ ยังฝากถึง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่ยืนยันว่าร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่โฟร์ซีซั่นส์ ว่า กล้ายืนยันหรือไม่ว่าอยู่ชั้น 7 หรืออยู่ห้องวอร์รูมของโรงแรม และไม่ได้มีส่วนเกียวข้องกับการเจรจาดังกล่าว ซึ่งตนทราบดีว่า นายกิตติรัตน์ และเจ้าของแสนสิริ มีความผูกพันมายาวนาน บริษัท แสนสิริ เคยเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทให้คำปรึกษาทางการเงินของนายกิตติรัตน์ ก่อนที่จะมีการโอนกิจการไปให้กองทุนของบริษัทภรรยานายกิตติรัตน์ ดูแลก่อนเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลชุดนี้ และร่วมทำธุรกิจกับแสนสิริมาตั้งแต่ปี 42 ดังนั้น ขอให้ออกมายอมรับว่า มีการคุยอะไรกัน ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผู้ข้อมูล อย่างน้อยให้ความเป็นธรรมกับนักธุรกิจรายอื่นๆ และประชาชน อย่าให้เหตุการณ์ที่โฟร์ซีซั่นส์ นอกจากจะทำลายเกียรติยศชื่อเสียงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในทางส่วนตัว ยังทำลายระบบเศรษฐกิจ และคุณธรรมจริยธรรมของนักธุรกิจไทยด้วย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการพิสูจน์ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ดื่มสุราระหว่างการประชุมพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจว่าจะตรวจสอบกันอย่างไร เพราะทราบดีว่า เวลาเมาแล้วขับจะถูกจับที่ด่านทันที ไม่ได้ถูกจับในวันรุ่งขึ้นที่บ้านพัก หากจะใช้คำพูดว่ากลับบ้านไปแล้วแอลกอฮอล์ลดระดับลง แล้วบอกว่าไม่ได้เมาก็ไม่เป็นไร ถ้าหากเป็นผู้ชายแล้วพูดแบบนี้ เชื่อว่า ประชาชนจะพิจารณาได้เอง แต่เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็คงปฏิเสธที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้เช่นกัน จึงไม่แน่ใจว่าการดื่มสุราหรือปาร์ตี้สังสรรค์เป็นเรื่องปกติของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะก็ถนัดเรื่องปาร์ตี้เหมือนกัน
นายชวนนท์ กล่าวพร้อมกับแสดงภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในอาการเมามาย โดยมี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ประคองอยู่ พร้อมกับระบุว่า ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นการดื่มเหล้าเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า หรือว่าเห็นดึกแล้ว สามารถดื่มเหล้าได้หรือไม่ และได้เปิดคลิปช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปราศรัยหาเสียง ว่า จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ตนอยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำตามที่เคยประกาศไว้จริงหรือไม่
“ผมไม่ทราบพระพุทธเจ้าองค์ไหนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สอนให้คนผิดศีลครบทั้ง 5 ขนาดนี้ ทั้งโกหก ลักทรัพย์ของบริจาค ตระบัดสัตย์เรื่องนโยบาย สุราเมระยะ ยังไม่อยากพูดถึงศีลข้อ 3 เดี๋ยวจะหาว่าดึงไปเรื่องใต้สะดืออีก เข้าใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดตามโพย แต่น่าจะจำได้บ้างว่าพูดอะไรออกไป อยากให้ประชาชนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มีคุณธรรมจริยธรรมดีงามให้กับสังคมไทยเลย ถ้าเทียบกับรัฐมนตรีประเทศอื่นๆ เช่น รมว.คลังประเทศญี่ปุ่น ที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก เนื่องจากดื่มเหล้าขณะแถลงข่าวทันที โดยไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบ สังคมอยากเห็นรัฐบาลไทยสร้างมาตรฐานอันดีงาม อยากให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี อย่างนี้บ้าง คุณยิ่งลักษณ์ เป็นผู้หญิงควรจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้สังคม โดยดูตัวอย่างแบบนี้ แต่ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่พิจารณาเรื่องนี้พบก็เชื่อ และสิ่งหนึ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะตำหนิ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อย่างเดียวคือ ทำไมไม่ชวน” นายชวนนท์ กล่าว
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การที่จะเอาผิดคนเมาและเข้าไปในสภาฯค่อนข้างจะสิ้นหวัง และเลือนลาง เพราะมีความพยายามปฏิเสธ ด้วยการอ้างคำพูดของเจ้าของกรณีมาเป็นตัวตั้ง ว่า ไม่ได้เมาเหล้าแต่เมารัก ซึ่งมีการอธิบายชัดเจนจาก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า อยู่ในอาการมึนเมา เพราะคนไม่เมาจะไม่พูดเช่นนี้ และฝากไปยังประธานสภาฯ ว่า ไม่ต้องพยายามพิสูจน์หรือตั้งคำถามกับคนเหล่านี้ เพราะจะได้รับคำปฏิเสธแน่นอน
“ไม่มีคนเมาที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเมาทั้งที่คาน 4 ขา กรณีของ ร.ตอ.เฉลิม สังคมคงจะพิพากษาเอง เราไม่คาดหวังการลงโทษจากคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรรมการจริยธรรม แต่เชื่อว่าต่อไปนี้สังคมจะเปลี่ยนยศให้คุณเฉลิมจาก ร.ต.อ.เป็น ม.ท.ว.” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าแนวทางกรณี ร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นอย่างไร เพราะการตั้งกระทู้ถามสดยังไม่ทราบว่าจะถามใคร เพราะถ้าถามนายกฯคงไม่ตอบ เชื่อว่า จะโยนให้ ร.ต.อ.เฉลิม ตอบ ซึ่งก็คงจะปฏิเสธเช่นเดิม การตั้งกระทู้ก็จะหาความจริงไม่ได้ และอาจถูกตีความว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคคงจะหาแนวทางอื่นจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม นายเทพไท ยอมรับว่า ปัญหาการดื่มเหล้าก็มีบางยุคบางสมัย ซึ่งบางคนอาจจะดื่มมาจากข้างนอก แต่กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่อยู่ในอาการเมาทั้งวันได้ไปสังสรรค์ที่ไหนหรือไม่ หากคณะกรรมการจริยธรรมและคณะกรรมการสภาฯ เอาจริงก็หาไม่ยาก สามารถสืบเสาะจากพยานแวดล้อมได้ และพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม และ ส.ส.เหล่านี้ก็มีการพูดถึงแก๊งไวน์แดง แสดงว่า ไม่ได้มีแค่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่มีหลายคน ตนคิดว่า ตามได้ไม่ยาก หากประธานเอาจริง เว้นแต่จะลูบหน้าปะจมูกพวกตัวเองก็จะปกป้อง พยายามหาพยานหลักฐานมาซึ่งเป็นเรื่องยาก
“เรื่องนี้กลุ่มเสื้อแดงกับแก๊งไวน์แดงสู้กันเอง ถ้าใครตามดูบนเวทีเสื้อแดงจะเห็นมีการเคลียร์กัน โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้พูดนัยสำคัญทางการเมือง ว่า ไม่มีอะไรกับ ร.ต.อ.เฉลิม ขอให้สบายใจได้ ฉะนั้น อาจจะมีความขัดแย้งอะไรบางอย่างกันระหว่างสองแก๊งนี้” นายเทพไท กล่าว