“เด็จพี่” ขอบคุณสภารับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญ ม.291 ซัดพวกค้านปลุกกระแสเพื่อไทยเผด็จการรัฐสภาบิดเบือนทำสังคมขัดแย้ง ยันพรรคไม่จุ้น ส.ส.ร. ป้อง “เฉลิม” อ้างถ้าเมาคงยืนประท้วงไม่ได้ หยัน ปชป.กลบข่าวแพ้โหวต ขู่ไม่หยุดจ้อเจ้าตัวอาจฟ้องกลับ พล่ามมั่วพันธมิตรจะชุมนุม 10 มี.ค. เล็งจ่อตั้ง กก.เช็กสินค้า
วันนี้ (26 ก.พ.) ทื่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมไปถึงพรรคภูมิใจไทย ที่โหวตให้ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 จำนวน 399 เสียง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของประชาธิปไตยไทย เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นเสียงของประชาชนส่วนมากแต่กลับมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ใช้สื่อโทรทัศน์ วิทยุท้องถิ่นในหลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้ เพื่อปลุกกระแสให้เห็นว่าการผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเผด็จการรัฐสภา และทางการเมือง ซึ่งขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีการโหวตอย่างเปิดเผย มีการขานชื่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นทั้งสมาชิกรัฐสภา และพรรคร่วมร่วมฝ่ายค้านอย่างพรรคภูมิใจไทย มีวุฒิภาวะทางการเมือง ดังนั้นในฐานะที่ตนเองเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยจึงไม่อยากให้กลุ่มต่อต้านบิดเบือนในการที่จะปลุกกระแสออกมาต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะทำให้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งได้
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะมีการโหวตผ่านวาระแรกแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นขั้นตอนของกรรมาธิการในการแปรญัตติ ซึ่งทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถทำหน้าที่ในกรรมาธิการ ที่จะแสดงความคิดเห็นในส่วนที่ไม่เห็นด้วยได้ ซึ่งเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้านมีการกล่าวหาร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่ามีอาการมึนเมาในขณะยื่นประท้วงการอภิปรายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมเรียกร้องให้ประธานรัฐสภามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม โฆษกพรรคเพื่อไทย เห็นว่า ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ได้ทำหน้าที่ถูกต้องตามข้อบังคับที่ 43 ในการใช้สิทธิ์ยื่นประท้วงที่ถูกต้อง ดังนั้น หาก ร.ต.อ.เฉลิมมีอาการมึนเมาจริงคงไม่สามารถประท้วงได้อย่างถูกต้องตามข้อระเบียบ อีกทั้งยังเป็นนักการเมืองอาวุโสที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน จึงเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องเพื่อกลบข่าวแพ้โหวต ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว เพราะมองว่าการประชุมสภาเป็นการประชุมร่วมหน้าที่ในการตรวจสอบจึงเป็นของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม หากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่หยุดกล่าวหาในกรณีนี้ ร.ต.อ.เฉลิมอาจจะมีการฟ้องกลับได้เนื่องจากเป็นนักกฎหมาย
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวชื่นชมการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อวานนี้ว่า เป็นไปด้วยความสงบถึงแม้จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก ถือเป็นการแสดงออกใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมหวังว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 มีนาคมนี้ เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้เป็นการชุมนุมอย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ทางการเมืองและไม่ปิดล้อมสถานที่ราชการ หรือถนนในการทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาสินค้าทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือการทำงานของรัฐบาล โดยอาศัยความร่วมมือจาก ส.ส.ในพื้นที่และผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เพื่อสำรวจราคาทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมของพรรคเพื่อไทยในวันอังคารนี้ และส่งต่อให้รัฐบาลนำไปแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชวนนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินัวตร นายกรัฐมนตรีเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจบางกลุ่มว่า พรรคประชาธิปัตย์เล่นเกมทางการเมืองและจ้องทำลายโดยไม่มีข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองพร้อมทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยแจ้งความที่ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ควรจะไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะเหมาะสมกว่า นอกจากนี้ตนยังขอเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลการทำหน้าที่ของทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย