พท.ยันแก้ รธน.ไม่แตะต้องหมวดสถาบัน เมินถูกยื่นถอดถอน

พท.ขอบคุณทุกส่วนร่วมมือแก้ไข รธน. ยันไม่แทรกแซง ส.ส.ร. และไม่แตะต้องหมวดสถาบัน เฉ่ง ปชป.ดูถูกปัญญาประชาชน แนะร่วมร่าง รธน.อย่างสร้างสรรค์ เมินถูกยื่นถอดถอน

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกรัฐสภาที่ให้ความร่วมมือในการลงมติ ผ่านร่างแก้ไขรับธรรมนูญ ปี2550 ในวาระที่ 1 เมื่อวานนี้(24 ก.พ.) เห็นได้จากคะแนนเสียงที่ได้รับซึ่งมีทั้ง สมาชิกวุฒิสภส สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ของรับบาลที่ ลงมติผ่านร่างดังกล่าว

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซง การทำหน้าที่ของ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) รวมทั้งจะไม่แก้ไขในหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันตามที่ฝ่ายค้าน วิพากษ์ วิจารณ์ ในการอภิปราย ร่างแก้ไขรับธรรมนูญในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่ากรณีพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญ ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น สามารถสรุปประเด็นโจมตีของพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็น 5 ประเด็น และขอชี้แจงว่า 1.ที่กล่าวหาว่าแก้รัฐธรรมนูญทำเพื่อคนๆ เดียว ถือว่าเป็นการดูถูกสติปัญญาของประชาชน เพราะกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่จะมาถึงเกิดจาก ส.ส.ร. และส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อตัวแทนประชาชนมายกร่างแก้ไขต้องยึดประโยชน์เพื่อคนทั่วประเทศเป็นหลัก

2.ที่กล่าวหาว่าเป็นการตีเช็คเปล่า เท่ากับเป็นการดูถูกสติปัญญาประชาชนอีก ซึ่งถือว่าเป็นความคิดล้าหลัง โน้มเอียงไปทางอำนาจนิยมสูง ไม่ยอมให้ประชาชนมากำหนดกติกาของประเทศ 3.ที่ระบุว่าไม่จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะมีปัญหาเพียงบางมาตรานั้น พรรคประชาธิปัตย์ทราบได้อย่างไรว่า ส.ส.ร.จะแก้ไขทั้งฉบับหรือบางส่วน ทั้งที่ยังไม่เห็นตัวบุคคลของส.ส.ร. หากเปรียบรัฐธรรมนูญเกิดจากช่องคลอด คมช. แต่คณะคมช. หรือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ อดีตประธาน คมช. ยังไม่ออกมาปกป้องเท่ากับที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ

4.ที่ระบุว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นการสร้างความแตกแยกนั้น ข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่ความไม่ปรองดองได้ เพราะมีกลุ่มบุคคลที่ไม่อยากปรองดอง นำประเด็นไปปลุกปั่นยั่วยุให้เกิดความแตกแยก และ 5.ที่ระบุว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ตนมองว่ามีเรื่องใดบ้างที่พรรคประชาธิปัตย์มองว่าเร่งด่วนบ้าง ที่ผ่านมาการออกพระราชกำหนดกู้เงินเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วม สายตาพรรคประชาธิปัตย์ก็มองว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น

“ขอเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมอย่างสร้างสรรค์ และไม่ปิดกั้นเจตนารมย์ของคนไทยที่เห็นชอบให้แก้ไข”

ส่วนที่ นพ.ตุลย์ สุทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี จะเดินหน้าถอดถอน สมาชิกรัฐสภาที่ลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิในการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ขณะเดียวกันเรียกร้องให้ กลุ่มคนดังกล่าวแสดงความคิดเห็น ผ่าน ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากทุกภาคส่วนเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด