กมธ.ปรองดอง รับไม่เข้าใจปรัชญาในหลวง ปัญหาแก้ไฟใต้ เชื่อไม่เกี่ยวเปลี่ยน รบ.

ประธาน กมธ.ปรองดอง เผย ที่ประชุมถกไฟใต้ ส.ส.อีสานแน่ ให้ มท.นำแก้ รับยังไม่เข้าใจปรัชญาในหลวง เชื่อไม่เกี่ยวเปลี่ยนรัฐบาล ชี้ ต้องดึงมวลชนและอย่าประเมินกลุ่มก่อการต่ำ ไม่พูดเยียวยาม็อบรวมกรือเซะ-ตากใบ

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า คณะ กมธ.ได้มีการหารือถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่า มีต้นเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรโดยได้นำข้อเท็จจริงมาคุยกัน โดย กมธ.ในส่วนของ ส.ส.ภาคอีสาน มีความเห็นว่า ในการส่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐโดยเฉพาะทหารลงไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่น จึงเห็นว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าทีม พร้อมกับน้อมนำยุทธศาสตร์หลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ลงไป แต่ปัญหา ณ ตอนนี้อยู่ที่เรายังไม่เข้าใจคำว่า เข้าใจ คืออะไร ทั้งนี้ ในวันที่ 10 ก.พ.คณะอนุ กมธ.ภาคใต้ ที่มี พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน จะลงไปที่ จ.ปัตตานี เพื่อพบผู้ว่าราชการจังหวัด กอ.รมน.และ ศอ.บต.

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นอดีต ผบ.ทบ.มองอย่างไรถึงสถานการณ์ความรุนแรงในตอนนี้ ว่า มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่มีการขยายตัว และมีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น ดังนั้น เราจะต้องไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเหล่านี้ขยายตัว โดยวิธีการแก้ไข คือ ต้องให้ประชาชนกลับมาให้ความร่วมมือกับเราเหมือนเดิม และอย่าไปประเมินกลุ่มคนเหล่านี้ต่ำเกินไป ทั้งนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องหาวิธีการดึงมวลชนกลับเข้ามาให้ได้เพราะถือเป็นหัวใจหลัก

ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาผู้สูญเสียในเหตุการณ์ในภาคใต้ครอบคลุมถึงเหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ ด้วยนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่อยากให้ทุกฝ่ายลงไปดูข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งเรื่องนี้คงต้องให้คณะกรรมการของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ชี้แจงดีที่สุด เพราะถ้าต่างคนต่างพูดจะเกิดความสับสน

พล.อ.สนธิ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการให้สถาบันพระปกเกล้า รวบรวมและศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและการสร้างความปรองดองในต่างประเทศของ 10 ประเทศ ล่าสุด กมธ.ได้ขอให้สถาบันพระปกเกล้าศึกษาเพิ่มเติมอีก 3 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา พม่า เนื่องจากประเทศเหล่านี้เกิดวิกฤตการณ์ในประเทศในฐานะมีประชาชนจากหลายชาติพันธุ์แต่ยังสามารถสร้างความปรองดองได้ ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าจะส่งรายงานมาให้เร็วที่สุด