รองโฆษกหญิง พท.บอกเศร้าใจ ปชป.เล่นแต่มุกเดิมขวางแก้ รธน. ยกโผลหนุนตั้ง ส.ส.ร. ก่อนเหมารวมคนไทยจำใจลงมติรธน.50 เพราะกลัว คมช.ใช้ รธน.เผด็จการกว่าเดิม โวย “มาร์ค” ไร้จุดยืน เคยหนุนตั้ง ส.ส.ร. แต่เวลานี้ดันกลัวถูกการเมืองครอบงำ เหน็บดาหน้าไปพบ “อองซาน ซูจี” เพื่อหนุน ปชต.แต่ดันขวางแก้ รธน.ที่ไม่เป็น ปชต.
วันนี้ (23 ก.พ.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่พรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างแต่คำพูดเดิมๆ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว ทั้งยังพูดราวกับว่ามีเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่มีปัญหากับรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งๆ ที่ หลายพรรคเมืองได้รับผลกระทบจากเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้แต่นายชุมพล ศิลปอาชา ก็ยังกล่าวยอมรับกลางรัฐสภาว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน
พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ยกย่องว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มีความเป็นประชาธิปไตย ทั้งๆที่เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่ากระบวนการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อ 19 ส.ค. 2550 เป็นการลงมติท่ามกลางบรรยากาศที่ประเทศถูกปกครองภายใต้กฎอัยการศึกใน 47 จังหวัด และในเวลานั้น ประชาชนจำนวนมากอาจกลัวว่า คมช.จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาเป็นเผด็จการยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากในรัฐธรรมนูญ ปี 49 ฉบับชั่วคราว ได้ให้อำนาจ คมช.ประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใดก็ได้ หากประชาชนลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า หากการลงมติ รธน.50 อยู่ในช่วงเหตุการณ์ปกติ คนไทยส่วนใหญ่คงไม่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ เห็นได้จากผลสำรวจเอแบคโพลล์ เมื่อ14 ม.ค.55 ที่ระบุว่า ประชาชนเกินครึ่งประเทศ ถึงร้อยละ 53.8 เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญฉบับ ปี 50 โดยร้อยละ 69.8 สนับสนุนการตั้ง ส.ส.ร. ในขณะผลสำรวจนิด้าโพล เมื่อ 6 ก.พ.55 ระบุว่า ประชาชนร้อยละ74.4 เห็นว่า ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้ง เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาชน ดังนั้นประชาชนควรมีส่วนร่วม ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตั้ง ส.ส.ร. โดยอ้างว่า ส.ส.ร.อาจถูกครอบงำโดยพรรคการเมือง แสดงว่าพวกท่านดูถูกสติปัญญาของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและไม่เคยฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเลย ใช่หรือไม่
นี่ยังไม่นับการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยประกาศว่า จะสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญและการตั้ง ส.ส.ร. แต่พอมาเวลานี้กลับประกาศว่าจะคัดค้านเหมือนจำคำพูดตัวเองไม่ได้ ที่น่าตลกกว่านั้นคือ การที่นายอภิสิทธิ์ดิ้นรนนั่งเครื่องบินไปหานางอองซาน ซูจี เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่า แต่ในบ้านเมืองของตัวเอง นายอภิสิทธิ์กลับขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะมีที่มาจากจากยึดอำนาจ
