ผู้บัญชาการทหารบกยันไม่มีปัญหาใช้โรงงานประกอบอาวุธลพบุรีเป็นแก้มลิงรับน้ำ - ย้ำเข้มงานข่าวมาตลอด รับต้องอาศัยผู้ชำนาญมาก ชี้หน่วยข่าวทั้งโลกไม่มีใครแม่น 100% ชูกล้องวงจรปิด ประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วย ทำบ้านเมืองสงบสุข จี้เข้มงวดเฝ้าระวัง แนะอย่าหลวมตัวเป็นคู่ขัดแย้งใคร
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2) เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชากรทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเป็นประธานในงานวันสถาปนาหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ว่านอกจากไปพบปะผู้บังคับหน่วยและให้โอวาทกำลังพลแล้วจะสั่งการเพิ่มเติมในเรื่องความร่วมมือกับทุกส่วนราชการเพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในอนาคต รวมถึงการนำบทเรียนในช่วงที่ผ่านมามาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่วนที่รัฐบาลจะใช้หน่วยทหารใน จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำนั้น พื้นที่ดังกล่าวคือโรงงานประกอบอาวุธของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นพื้นที่ว่างเปล่าโดยกองทัพดูแลอยู่ คงไม่มีปัญหาอะไร อะไรที่เป็นประโยชน์โดยส่วนรวมนั้น ทางกองทัพและกระทรวงกลาโหมก็พร้อมสนับสนุนในงานของรัฐบาลเพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์คือประชาชน สิ่งใดก็ตามที่ก่อให้เกิดประโยชน์เราก็พร้อมที่จะปฏิบัติให้ดีที่สุด ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลเราก็ทำเต็มที่
เมื่อถามว่า ต้องเน้นย้ำในเรื่องการทำงานด้านการข่าวหลังจากมีการจับผู้ต้องหาก่อเหตุระเบิดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า งานด้านการข่าวจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง และมีการย้ำเตือนมาตลอด ซึ่งกองทัพบกจะสั่งการลงไปว่าต้องการให้เดินไปอย่างไร โดยเฉพาะภัยคุกคามในช่วงนี้มีอะไรบ้าง ดังนั้น ทุกอย่างต้องขยับเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เพื่อให้งานด้านการข่าวปรากฏ ทหารรับผิดชอบหลักในด้านการป้องกันชายแดน และงานข่าวกรองด้านการรบ คือข่าวที่รับมาและมาเข้าวงรอยข่าวกรองมีการวิเคราะห์ออกมาจนเป็นผลิตผลและน่าเชื่อถือได้ก่อนจะนำไปสู่การปฏิบัติของกองกำลังตามแนวชายแดน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันกองทัพมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดยมีศูนย์ปฏิบัติการ 6 ศูนย์รับผิดชอบภัยคุกคาม 6 อย่าง หนึ่งในนั้นมีเรื่องการป้องกันการก่อการร้ายด้วย ซึ่งกองทัพจะใช้ในลักษณะการประสานความร่วมมือการด้านการข่าว ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาล และเชื่อมต่อกับในส่วนของต่างประเทศก่อนจะนำเข้ามาสู่ประชาคมข่าวกรองมีการประเมินกันทุกสัปดาห์ก่อนจะนำไปปฎิบัติงานข่าวเป็นงานที่ยากต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ มีการฝึกอบรมโดยเฉพาะหลักสูตรข่าวลับ ที่ต้องมีการทำงานที่ลึกลงไปมากกว่าปกติ
“ที่ผ่านมาแหล่งข่าวทั้งโลกไม่มีใครทำได้ 100% ว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ผู้ร้ายอาศัยในช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอในการก่อเหตุ ดังนั้น ต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่างกล้องซีซีทีวี การเฝ้าระวังของประชาชน ถ้าช่วยกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งสำคัญซึ่งทั่วโลกพยายามทำเช่นนี้กันอยู่ต้องดูว่าประเทศไหนที่ไม่ค่อยมีเรื่องราว ไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น สถานการณ์มีเสถียรภาพ บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย ประชาชนจะมีคุณภาพในการเฝ้าระวัง ช่วยเป็นหูเป็นตามีอุปกรณ์เสริมที่ทันสมัยก็จะไม่เกิดเหตุ แต่ที่สำคัญที่สุดคือคนทุกวันโลกเจริญ ถ้าเราไม่รู้จักป้องกันตัวเอง โทษกันไปมา ก็ไม่จบต้องดูว่าทำอย่างไรจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ตั้งแต่การเข้ามาในประเทศที่จะต้องควบคุมที่ดี รวมถึงการเฝ้าระวัง ที่ผ่านมาอาจจะมีช่องว่างจึงต้องกวดขัน” ผู้บัญชาการทหารบกกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการก่อการร้ายนั้นเราอย่าไปเป็นคู่ขัดแย้งดีที่สุดใครทำผิดกฎหมายก็ว่ากันไป ขณะเดียวกัน เราอย่าไปลงความเห็นว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ยิ่งพูดทำให้เกิดความเสียหาย ทางด้านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็พูดไปหมดแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์หากพูดกันไปมาทุกวัน ทั้งนี้ฝ่ายข่าวได้ชี้แจงกับผู้ช่วยทูตทหารให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
