เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ได้เห็นทั้งสองเรื่องพร้อมๆกัน ข่าวแรกคือ บริษัท ปตท.และบางจากนำร่องประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์อีกลิตรละ 60 ส.ต.ส่วนดีเซลปรับขึ้นอีกลิตรละ 40 ส.ต.และแก๊ซโซฮอล์อี 85 ขึ้นอีกลิตรละ 30 ส.ตโดยมีผลตั้งแต่วานนี้( 21 ก.พ.) ทำให้ราคาเบนซินลิตรละ 40.91 บาท แก๊ซโซฮอล์ 95 ลิตรละ 39.63 แก๊ซโซฮอล์ 91 ลิตร 37.88บาท แก๊ซโซฮอล์ อี 20 ลิตรละ 36.88 บาท แก๊ซโซฮอล์ อี 85 ลิตรละ 23.68 บาท และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 31.73 บาท ขณะเดียวกันก็ได้ยินข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์โดย บุญทรง เตริยาภิรมย์ กำลัง “กระชากค่าครองชีพ” ขายข้าวผัดกระเพราในราคาแนะนำจานละ 25 บาท อ้อ ย้ำเตือนกันลืมก็คือก่อนหน้านั้น ปตท.ได้ประกาศผลกำไรปี 54 ด้วยความภาคภูมิใจว่ามีกำไรเป็นประวัติการณ์กว่าแสนล้าน ปันผลให้ผู้ถือหุ้น 2.4 หมื่นล้านบาทซึ่งในจำนวนนั้นก็ต้องมีพวกตระกูลการเมืองห่วยๆอยู่เพียบ เฮ้อ
00 อีกข่าวก็น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือการวิเคราะห์ของสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร กำลังเคลื่อนไหวสั่งการอย่างลับๆให้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อเตรียมรับมือกับการรัฐประหาร หรือเตรียมการรุกของมวลชนคนเสื้อแดงในช่วงที่กำลังเดิมพันสำคัญทั้งในเรื่องแก้ไข รธน.รวมไปถึงการแก้ไข กม.สารพัดเพื่อให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจ ขณะเดียวกันในบทวิเคราะห์ดังกล่าวได้ระบุว่าคนที่ได้รับคำสั่งให้ดูแลวอร์รูมเพื่อรับมือการก่อรัฐประหารก็คือ รมว.กลาโหม ที่เป็น “คู่ดอง” คือ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต นั่นเองข่าวว่าจะเริ่มลงมือราวเดือนมิถุนายน ก็เอากันเข้าไป ถ้าคิดว่าการบริหารประเทศ “ห่วยแตก” หมดสภาพแบบนี้ ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ จากข่าวราคาน้ำมันที่จะพุ่งไปถึงลิตรละ 47 บาทในอีกไม่ช้า แล้วถึงตอนนั้นยังคิดว่าชาวบ้านยังโง่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็ลองดูแล้วกัน
00 เวลาซื้อหวยทำไมทายไม่แม่นแบบนี้ก็ไม่รู้ นึกอยู่ในใจแล้วเชียวว่าผลต้องออกมาแบบเมื่อเวลาผ่านไป พอเรื่องเงียบ ทุกอย่างก็เริ่มเงียบเป่าให้จบกันไปเหมือนกับการสอบสวนหาความร่ำรวยผิดปกติของ “ปลัดพันล้าน” สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ล่าสุด ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯที่เป็นประธานสอบยุคที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ยังเป็น รมว.คมนาคมได้สรุปออกมาแบบเอี้ยมเฟี้ยมว่าไม่อาจเอาผิดทางวินัยได้ ประเภทหลักฐานไม่เพียงพอยกประโยชน์ให้จำเลยประมาณนั้นแหละ ดังนั้นก็ต้องรอของจริงจาก ปปช.เท่านั้น
00 เวลานี้ถือว่าสายไปแล้วมั๊ง ประชา ประสพดี ส.ส.ปากน้ำ พรรคเพื่อไทยที่กลัวตก “ขบวนเลีย” เพิ่งโผล่มาอาสาพาสื่อไปพิสูจน์ “วิมานชั้น 7” ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ พิสูจน์ว่าที่นั่นมีห้องประชุมหรือมีห้องส่วนตัวหรือไม่อย่างไร แต่เวลานี้มันเลยเถิดไปแล้วประชาเอ๋ย เพราะด้วยคำพูดของ เศรษฐา ทวีสิน ที่เอ่ยออกมาเองไปกัน 6-7 คน ไปคุยกันสารพัดทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย แต่คำถามก็คือมีใครบ้างให้บอกมาเพราะข่าวว่าเป็นพวกบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวข้องกับ “ข้อมูลภายใน” เรื่องการเลื่อนประกาศราคาประเมินที่ดินในโครงการ “ฟลัดเวย์” เรื่องผังเมืองเพื่อเปิดทางให้เก็งกำไรกว้านซื้อที่ดินหรือเปล่า เพราะมีข่าวอีกว่าในวันนั้นมี รองนายกฯและขุนคลังอย่าง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ไปร่วมด้วย มันถึงเข้าเค้าไงละประชา ให้เตรียมตัวรับมือเรื่องนี้จะดีกว่า เพราะถ้าจริงถือว่าเป็นมีผลประโยชน์ทับซ้อนผิดกม.นะวุ้ย !! อ้อ ได้เห็นภาพที่พานักข่าวไปพิสูจน์วิมานชั้น 7 ที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ วานนี้(21ก.พ.) เห็นแล้วรู้สึกสมเพชการทำงานของ ส.ส.ไทย ดีที่ฝรั่งผู้ดูแลโรงแรมเขาไม่ยอมให้เข้า เฮ้อ เวรกรรม !!