xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เสียงข้างมากเลือก “ภุชงค์” นั่งเลขาฯคนใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ประชุม กกต.เสียงข้างมาก มีมติเลือก “ภุชงค์ นุตราวงศ์” รองเลขาธิการด้านกิจการการมีส่วนร่วม นั่งเลขา กกต.เจ้าตัวสัญญาสนองนโยบายกรรมการ ระบุ วาระ กกต.1 ปี 7 เดือนที่เหลือ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย ไม่มีอะไรเสียหาย พร้อมทุ่มเททำงานในวันเสาร์ไม่รับค่าล่วงเวลา

วันนี้ (20 ก.พ.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมากเลือก นายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการด้านกิจการการมีส่วนร่วม เป็นเลขาธิการ กกต.คนใหม่ ซึ่ง นายภุชงค์ ถือว่าเป็นคนเก่าแก่ เพราะอยู่ กกต.มาตั้งแต่ปี 2541 และเป็นรองเลขาธิการ กกต.มารวม 5 ปี ซึ่งถือว่านานกว่ารองเลขาธิการ กกต.คนอื่น โดย นายภุชงค์ จะต้องลาออกจากการเป็นพนักงานประจำมาเซ็นสัญญาจ้าง เชื่อว่า นายภุชงค์ คงจะต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เร็วที่สุดภายใน 3 วัน อย่างไรก็ตาม การที่ นายภุชงค์ไม่ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ คงไม่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน เพราะ กกต.ก็อยู่ในระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเคารพ และยอมรับเสียงข้างมาก

ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การที่ กกต.ไม่ได้มีมติเอกฉันท์เลือก นายภุชงค์ คงไม่เป็นปัญหาในการทำงาน เพราะตอนนี้ กกต.ต้องการเลขาธิการกกต.ตัวจริงมาปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากรักษาการกันมานาน ซึ่งคิดว่าจุดที่ทำให้ กกต.เลือกนายภุชงค์ นอกจากความเป็นคนในที่รู้งานของ กกต.แล้ว ก็น่าจะเพราะนายภุชงค์ อายุราชการเหลืออีกเพียง 1 ปีก็เกษียณ ซึ่ง กกต.ชุดนี้ก็เหลือวาระอีกเพียงปีเศษ ดังนั้น การกระทบกระทั่งอะไรกันก็คงไม่เท่าไร ซึ่งถ้าหาก กกต.ชุดใหม่เข้ามาแล้วเห็นว่า นายภุชงค์ ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ที่มีวาระ 5 ปี ก็สามารถไม่ต่อสัญญาได้ เนื่องจากสัญญาจ้างที่นายภุชงค์ จะต้องเซ็นนั้นจะกำหนดให้มีการประเมินทุกปี ถ้า นายภุชงค์ ทำไม่ดี กกต.ชุดใหม่ก็สามารถไม่ต่อสัญญาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมลงมติเลือกเลขา กกต.ครั้งนี้ สำนักประชุม กกต.ได้จัดกระดาษให้ กกต.แต่ละคนกาชื่อคนที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสม โดยไม่เปิดเผยว่าใบลงคะแนนนั้นเป็นของ กกต.คนใด ซึ่งมีผู้เข้ารับการคัดเลือกได้รับคะแนน 2 คน คือ นายภุชงค์ และนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร แต่ นายภุชงค์ ได้รับคะแนนจาก กกต.3 เสียง ส่วน นายพงศ์ศักติฐ์ ได้ 2 เสียง

ทั้งนี้ ก่อนการลงมติ กกต.ได้เปิดให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กกต.ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงาน กกต. 2.พล.ต.ไชยวัฒน์ บางประภา กรรมการสัตวแพทย์และผู้ประนีประนอมข้อพิพากษาศาลอาญา 3.นายพงศ์ศักติฐ์ 4.นายภุชงค์ 5.นายอรรณพ ลิขิตจิตถะ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  เข้าแสดงวิสัยทัศน์เพิ่มเติมต่อ กกต.ผู้บริหารสำนักงานฯคนละ 30 นาที ซึ่งในการแสดงวิสัยทัศน์ นายภุชงค์ ระบุว่า หากเป็นเลขา กกต.จะมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพของสำนักงาน กกต.เพื่อให้สามารถรองรับนโยบาย กกต.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีการปรับปรุงหน่วยงานธุรการให้มีความเข้มแข็ง หล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานขาดแรงจูงใจในการทำงานเพราะมีปัญหาเรื่องสวัสดิการ ซึ่งก็จะมีการดำเนินการให้มีความเท่าเทียมกับส่วนราชการอื่นโดยจะต้องทำเรื่อนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่รับตำแหน่งเช่นเดียวกับการปรับปรุงกฎระเบียบ กกต.ต่างๆ และต้องมีการจัดเตรียมแผนเพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่อาจจะมีขึ้น เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในปี 56 และ ส.ว.ในปี 57

“หากได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขา กกต.ตำแหน่งนี้จะติดตัวผม 24 ชั่วโมง และวันทำงานจันทร์-ศุกร์ จะเปิดรับหนังสือถึง 21.00 น.ของทุกวัน รวมทั้งเพิ่มวันทำงานในวันเสาร์โดยจะไม่ขอเบิกค่าล่วงเวลา ผมรับรองว่าจะอำนวยความสะดวกอย่างถูกต้อง โดยตลอดระยะเวลาของกกต.ที่เหลือ 1 ปี 7 เดือนทุกอย่างต้องเรียบร้อยไม่มีอะไรเสียหาย และจะต้องเป็นผลงานที่ท่านกกต.ฝากไว้ในแผ่นดินนี้”

อย่างไรก็ตาม หลังได้รับการคัดเลือกจาก กกต.นายภุชงค์ กล่าวว่า เลขาธิการ กกต.เหมือนแม่บ้าน พร้อมที่จะสนองนโยบาย กกต.ทั้งงานด้านกฎหมายการเลือกตั้งการสืบสวนสอบสวน และด้านการมีส่วนร่วม รวมทั้งการบริหารของสำนักงาน กกต.เพราะตนได้อยู่สำนักงาน กกต.มา 14 ปีแล้ว ตั้งแต่ชุดแรก คิดว่า สามารถทำงานได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพและจะมีการประเมินผลการทำงานตลอดเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น