“กลุ่มการเมืองสีเขียว” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรม “ปู” แจงใช้เวลาราชการปฏิบัติภารกิจ “ว.5 โฟร์ซีซั่นส์” ก่อนหมดภาวะผู้นำ ขู่มีสิทธิยื่นถอดถอนได้ทันที
วันนี้ (19 ก.พ.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มกรีนเดินทางไปร้อง เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังไปทำภารกิจลับที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ทั้งที่อยู่ในเวลาราชการว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินในการตรวจสอบจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการประจำ และสามารถดำเนินการถอดถอนบุคคลดังกล่าวได้ทันทีหากพบว่ากระทำผิดต่อจริยธรรมจริง ฉะนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องไม่ใช่เสือกระดาษ หรือมีอำนาจแต่ไม่กล้าใช้อำนาจ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นองค์กรอิสระอย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ไม่จำเป็นต้องมีให้เปลืองงบประมาณหรือภาษีของประชาชนอีกต่อไป
นายจาตุรันต์กล่าวว่า จุดยืนในการตรวจสอบจริยธรรมของกล่มกรีนครั้งนี้ เพราะเราเป็นห่วงว่ากำลังจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนและการคอรัปชั่นเชิงนโยบายคล้ายๆ ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่ง นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เคยเปรียบเทียบไว้ว่าเป็นการ “โกงทั้งโคตร” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทำให้ระบอบทักษิณพังพินาศ จนนำมาสู่วิกฤติการณ์เรื้อรังในขณะนี้
“การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจด้านอสังหาฯ คนสำคัญ ออกมายอมรับว่าได้ไปพบกับนายกฯ ในวันเวลาดังกล่าวจริง และมีการปรึกษาหารือกันหลายเรื่องทั้งเรื่อง ดอกเบี้ย การเงิน เศรษฐกิจ การเมือง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง เพราะยิ่งปล่อยให้คนใกล้ตัวออกมาชี้แจงจะยิ่งสร้างปัญหาและทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของตัวนายกฯซึ่งมีปัญหาภาวะผู้นำอยู่แล้ว” นายจาตุรันต์กล่าว
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า กลุ่มกรีนขอเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้ 1. ขอท้าทายผู้ตรวจการแผ่นดินให้แสดงความกล้าหาญในการตรวจสอบอย่าตรงไปตรงมา และกล้าเอาผิดต่อนักการเมืองที่ผิดจริยธรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการบริหารประเทศ 2. ไม่ว่านักธุรกิจที่นายกฯไปพบที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ในวันดังกล่าวจะเป็นเพศหญิงหรือชาย นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่นายกฯนำเวลาราชการไปทำภารกิจส่วนตัว ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง 3. ทุกครั้งที่นายกฯ เดินทางกลับจากทำภารกิจต่างประเทศ มักจะพูดอยู่เสมอว่าได้มีการหารือแลกเปลี่ยนกับนักธุรกิจต่างชาติมากมาย แต่เหตุใดการพูดคุยกับนักธุรกิจชาวไทยในครั้งนี้กลับไม่กล้าจะออกมาอธิบาย และ 4. รัฐบาลพยายามลากคนอื่นเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นักธุรกิจจากบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตรมาด้วยนั้น ไม่ได้ต่างจากการนำคนเหล่านี้มาเป็น “หนังหน้าไฟ” เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารประเทศต่อไปได้