xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.สรุปบึ้ม ซ.ปรีดีฯ เป็นอุบัติเหตุ-โยงกลุ่มต้านวาเลนไทน์ จ่อเฝ้าระวัง “14 ก.พ.” ทุกปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุนัย จุลพงศธร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
ประธาน กมธ.ต่างประเทศ สภาฯ แถลงผลประชุมสอบบึ้มซอยปรีดีฯ ยันไม่ใช่ก่อการร้าย-ไม่โยงยิวเตือน เป็นแค่อุบัติเหตุ อ้างไทยประเทศท่องเที่ยวทำเสรีปลอมเอกสารวีซ่า จ่อเชิญนักประวัติศาสตร์มาเล่าเรื่องวาเลนไทน์ให้ฟังก่อนดูต้องประกาศเตือนภัยทุกปีหรือไม่ เผยทูตอิหร่านนัดหม่ำมื้อเที่ยง 21 ก.พ.

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อม น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กมธ.แถลงผลประชุม กมธ.เพื่อพิจารณากรณีเหตุระเบิดถนนสุขุมวิท 71 (ซอยปรีดี พนมยงค์) โดยได้เชิญผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง อาทิ สมช. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) มาชี้แจง

นายสุนัย ยืนยันว่า เหตุดังกล่าวไม่ใช่การก่อการร้าย และไม่เชื่อมโยงกับคำเตือนก่อการร้ายของอิสราเอล แต่เป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดระเบิดขึ้น แต่ยอมรับว่า เป็นความหย่อนยานของมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นถิ่นเสรีของการจัดทำเอกสารปลอม และเข้าออกได้ง่าย เพราะเป็นประเทศท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีการลงลึกในรายละเอียด โดยจะเชิญ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการ สมช.และตัวแทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) มาให้รายละเอียดอีกครั้ง

นายสุนัย กล่าวอีกว่า กมธ.จะเชิญนักประวัติศาสตร์มาเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางศาสนา กรณี อิหร่าน-เลบานอน-อิสราเอล-สหรัฐฯ-อังกฤษ ซึ่งเป็นที่ทราบในทางประวัติศาสตร์ถึงการต่อต้านเทศกาลวาเลนไทน์ของคริสเตียนโดยฝ่ายอาหรับ ที่ไม่ยอมรับในเรื่องนักบุญวาเลนไทน์ เพราะในอดีตเป็นพันๆ ปีก่อนมีการฆ่ากันในเรื่องความเชื่อทางศาสนา

ขณะที่ น.ส.จารุพรรณ เสริมว่า ในที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลการเฝ้าระวังการก่อการร้ายทั่วโลกในช่วงวันที่ 10-15 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมการป้องกัน โดยเป็นเรื่องมูลเหตุของความเชื่อ เนื่องจากช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ในอิหร่านเองก็มีการประท้วงต่อต้านทุกปี และมีความเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวทั่วโลก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์เทศกาลวาเลนไทน์ ที่มุสลิมและอาหรับต่อต้านประเพณีดังกล่าวของชาวคริสเตียน ซึ่งยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยเฉพาะล่าสุดกรณีเกิดเหตุการณ์ที่อินเดีย และ จอร์เจีย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ได้เชิญ กมธ.รับประทานอาหารกลางวันเพื่ออธิบายรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดย กมธ.จะได้ซักถามถึงแง่มุมทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมด้วย ส่วนจะต้องเตือนวันวาเลนไทน์เป็นวันเฝ้าระวังเหตุการณ์ร้ายในประเทศไทยทุกปีหรือไม่ ต้องรอฟังข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ที่จะเชิญมาให้ข้อมูลก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น