โฆษก ครม.เงา ประชาธิปัตย์ เผยที่ประชุม มีมติขอดูโครงการป้องกันน้ำท่วมตาม พ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล้าน หวังเช็กทำได้หรือไม่ จี้หยุดนโยบายคลังใต้ดิน ซัดคิดแต่หาเงินมาจ่ายประชานิยม
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติขอดูแผนโครงการป้องกันน้ำท่วมตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบโครงการในเอกสารที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นโครงการที่จะทำทันทีหรือไม่ เพราะหากดำเนินการปีหน้าก็สามารถกำหนดในการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ได้ โดยในปีนี้หลายพื้นที่ในภาคกลางถูกจัดให้เป็นพื้นที่น้ำนอง การเปิดเผยโครงการจะทำให้ประชาชนเตรียมการล่วงหน้ารองรับน้ำที่จะระบายจากเขื่อนได้
ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดนโยบายการคลังใต้ดิน เช่น กรณีการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯซึ่งเป็นการซุกหนี้ภาครัฐ โดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ก็ยอมรับกลางศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ทำให้หนี้สาธารณะลดลง แต่ต้องการลดภาระหนี้ต่องบประมาณ ซึ่งเป็นการทำนโยบายการคลังใต้ดินที่ทำให้ตรวจสอบยาก และการเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ 0.47% ไปไว้ในกองทุนพัฒนาประเทศโดยไม่นำเข้าคลัง ทำให้ไม่มีการตรวจสอบ จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายติดตามเรื่องนี้ว่ารัฐบาลจะทำจริงหรือไม่ ถ้าทำอาจจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง ทั้งนี้ ที่ประชุมยังแสดงความเป็นห่วงว่า การปฏิบัติตาม พ.ร.ก.โอนหนี้ที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์ 0.47% ไปชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เหลือเพียง 0.01% ที่จะส่งเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะทำให้เงินในสถาบันคุ้มครองเงินฝากหยุดอยู่ที่ 8 หมื่นล้าน ไม่ครบ 2 แสนล้านบาทตามที่ประเมินว่าจะเป็นตัวเลขที่สามารถคุ้มครองเงินฝากให้กับประชาชนได้ตามเป้าหมายไปอีกกว่า 20 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดวิกฤตการเงินขึ้นอีก จึงถือว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว คิดถึงแต่การหาเงินมาใช้จ่ายตามโครงการประชานิยมของตัวเองเท่านั้น