นายกฯ เยือนบึงสีไฟ พิจิตร สำรวจพื้นที่กักน้ำป้องกันอุทกภัย ผู้ว่าฯ รับงบฟื้นฟูขุดคลองรวมกว่าพันล้าน เจ้าตัวโยนไปทำการบ้านเพิ่ม - “นราพัฒน์” ใจเด็ด! โผล่ต้อนรับด้วย
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ จ. พิจิตร เมื่อเวลา 14.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินถึงโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย เพื่อสำรวจพื้นที่ในการเร่งเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำเพื่อป้องกันอุทกภัย รวมถึงรับฟังการบรรยาสรุปจาก นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรด้วย
โดย นายสุวิทย์ กล่าวบรรยายาสรุปว่า จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่ 2.8 ล้านไร่ มีแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำพิจิตร ไหลผ่าน รวมถึงคลองสำคัญต่างๆ เช่น คลองกำแพงเพชร และคลองเขาเพชรบูรณ์ ต่างมีความสูงกว่าจังหวัดพิจิตรกว่า 21 คลองด้วยกัน ซึ่งเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาได้เกิดอุทกภัย จึงเป็นที่มาที่ทำให้เราต้องปรับปรุงโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงโครงการเร่งด่วน ซึ่งทางผู้ว่าฯ ได้ชี้แจงว่า โครงการเร่งด่วนมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ ฟื้นฟูบึงน้ำที่ใหญ่กว่า 100 ไร่ งบประมาน 911 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้รวมถึงบึงสีไฟและการขุด 19 คลองหลัก 240 ล้านบาทด้วย ซึ่งรวมงบประมาณทั้งหมด 1,150 ล้านบาท
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ แล้วตามแผนเรามีงบประมาณเร่งด่วนให้ จ.พิจิตร ไปแล้ว ในการซ่อมแซมสิ่งที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งถือได้ว่าแผนทุกอย่างยังดำเนินการอยู่ ความเจ็บปวดนี้ยังอยู่ในใจตลอด ด้วความเป็นพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาในการรองรับน้ำและจำเป็นต้องค้นหาพื้นที่เพิ่มเติม และต้องเป็นพื้นที่ที่ต้องไม่กระทบต่อประชาชน ขณะเดียวกันระบบนิเวศเองต้องกลายเป็นสถานที่พักผ่อน ท่องเที่ยว ซึ่งโดยภาพรวมแล้วทุกท่านเห็นด้วยกับโครงการ แต่ขอให้ผู้ว่าฯไปทำการบ้านเพิ่มเติม แบ่งการทำงานเป็นเฟส เพื่อรับมือกับน้ำที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมสรุปงบประมาณ โดยงบประมาณจะอยู่ในแผนบริหารน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีลงสำรวจโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ ได้มารอต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปด้วย เนื่องจากเป็น ส.ส.ในพื้นที่
