“เทพไท” ยก 3 สมมติฐานแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ “ทักษิณ” สวน “วรวัจน์” โว รธน.50ผ่านประชามติ 14 ล้านเสียง ขำ “นพดล” ขู่ฟ้องหมิ่น ชี้ความเห็นต่าง
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ออกมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์วิตกจริตเกินเหตุในการแก้รัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้วิตกเกินเหตุแต่อย่างใด แต่การเคลื่อนไหวของพรรคอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีสมมติฐานที่จะเป็นไปได้มากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ว่ามีเป้าหมายในการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ 1. กลุ่มที่ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดล้วนแต่เป็นกลุ่มบุคคลในระบอบทักษิณทั้งสิ้น
2. การแก้ไขมาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้เมีการเลือกตั้งและสรรหา ส.ส.ร.ล้วนแล้วแต่เป็นการล็อคสเปคให้กับคนในระบอบทักษิณทั้งสิ้นเช่นเดียวกัน อาทิ การเคลื่อนไหวจัดเตรียมแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหงวัดต่างๆ เพื่อเข้ามาเป็น ส.ส.ร.ในครั้งนี้ และมีการใช้ทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง (เอเชียอัพเดท) เคลื่อนไหวหาเสียงให้กับแกนนำคนเสื้อแดงที่จะลงสมัครเป็น ส.ส.ร.ในจังหวัดต่างๆ แล้ว ส่วน ส.ส.ร.สรรหาก็มาจากการคัดเลือกของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งชัดเจนว่าเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นเสียงของรัฐบาล จึงคาดการณ์ได้ไม่อยากว่าจะต้องเลือกคนของตัวเองเข้ามาเป็น ส.ส.ร.สรรหา
3. การให้มี ส.ส.ร.ชุดนี้เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมฯญปี 2550 ได้ทั้งฉบับ โดยไม่ต้องกำหนดกรอบหรือประเด็นใดๆ ในการแก้ไข เปรียบเสมือนการให้ “เช็คเปล่า” หรือ “แบลงก์เช็ค” ซึ่ง ส.ส.ร.จะแก้ไขอย่างไรก็ได้ โดยประชาชนไม่มีโอกาสรับรู้ในการแก้ไขและไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าการแก้ไขครั้งนี้จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ อย่างไร
ส่วนการอ้างว่าให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจโดยการทำประชามตินั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงได้ โดยใช้กลไกของรัฐควบคุม และเมื่อแก้ไขรัฐธรรมฯญเสร็จตามวัตถุประสงค์แล้ว ก็เปรียบเหมือน “ผีถึงป่าช้า” ประชาชนต้องจำยอมเหมือนถูกมัดมือชก
ส่วนกรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯออกมาพาดพิงว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรละทิ้งรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจากเผด็จการนั้น ตนเห็นว่าถ้าจะอ้างที่มาของรัฐธรรมนูญว่ามาจากเผด็จการทหาร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็มีรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยเผด็จการมากมายหลายฉบับ และคนของพรรคเพื่อไทยก็ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญเหล่านี้หลายครั้ง อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้จะมาจากสภาร่างของ คมช.ก็ตาม แต่อย่าลืมว่าได้มีการทำประชามติของประชาชนคนไทยกว่า 14 ล้านเสียงซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกและฉบับเดียวที่ทำประชามติรับฟังความเห็นของคนทั้งชาติ และรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการร่างอุดช่องว่างและจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งโดยหลัการและสาระสำคัญไม่มีความต่างกันเลย แต่ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยรังเกียจรัฐธรรมนูญฉบัยนี้เพียงเพราะการผูกใจเจ็บของนายใหญ่ที่ถูก คมช.โค่นล้มให้ออกจากตำแหน่งเพราะใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระ ทุจริคอร์รัปชัน กลบเลี่ยวการเสียภาษี สร้างคามแตกแยกในสังคมไทยและจาบจ้างสถาบันเบื้องสูง
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่ตนได้ออกแบนเนอร์และสติกเกอร์ข้อความ “คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทักษิณ” โดยนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรา ออกมาระบุว่าจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ตนเห็นว่านายนพดลเป็นนักกฎหมายก็น่าจะรู้ดีว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ เพราะการออกป้ายในลักษณะเช่นนี้เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองที่เห็นต่าง ไม่ใช่การหมิ่นประมาทที่ทำให้เสียชื่อเสียง และเป็นที่รับรู้ทั่วไปว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ทั้งหมดของรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และ นปช. ล้วนเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณกำหนดไว้ทั้งสิ้น และทุกครั้งก็จะออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองในลักษณะชี้นำ แม้แต่กรณีการจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ของรัฐบาลที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังออกมาแสดงความชื่นชมและเห็นด้วย อยากให้คนในพรรคเพื่อไทยยอมรับความจริง ไม่ต้องปกปิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคือผู้บงการตัวจริงของรัฐบาลชุดนี้ ทั้งในและนอกประเทศ
