“เทพไท” อัดรัฐบาลสับขาหลอก วางแผนให้เครือข่ายยื่นแก้ไข รธน.เป็นตัวประกอบ ก่อนเสนอของจริงเข้าสภาฯ จี้ตอบให้ชัด ไม่แตะ ม.8 หมวดพระมหากษัตริย์ ม.102 เปิดทางช่วยคนถูกยึดทรัพย์ และ ม.237 เรื่องยุบพรรค รวมทั้ง ม.309 เพื่อช่วย “นช.แม้ว” เมิน “นพเหล่” ขู่ฟ้อง เดินหน้าแจกสติกเกอร์ต้านแก้ รธน.อีกแสนแผ่น
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่ผ่านที่ประชุม ครม.แล้วว่า เป็นการสร้างความแปลกใจว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลพยายามโยนเรื่องดังกล่าวไปให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภา และพยายามที่จะลอยตัวโดยปฏิเสธว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่วันนี้น่าจะเป็นเพราะสถานการณ์เห็นว่าฝ่ายในระบอบทักษิณได้พร้อมใจกันที่จะเคลื่อนไหวการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ก็น่าที่จะเป็นการส่งสัญญาณว่าจะยึดถือร่างฉบับนี้เป็นหลัก เพราะดูท่าทีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ผลักดัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า 4-5 ร่างที่ยื่นมาแล้วเป็นเพียงร่างประกอบเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรก็ต้องใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก ประกอบกับท่าทีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ที่รับลูกว่าจะนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในสัปดาห์หน้า
นายเทพไทตั้งข้อสังเกตว่า มีร่างที่เสนอมาหลายกลุ่ม โดยเฉพาะของกลุ่ม นปช.ที่มีผู้ลงชื่อถึง 6 หมื่นรายชื่อ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบรายชื่อไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ถ้าหากประธานสภาฯ จะบรรจุวาระในสัปดาห์หน้าแล้วจะทำอย่างไรกับร่างที่ยังตรวจสอบ เอกสารรายชื่อที่ยังไม่เสร็จ หรือร่างเหล่านั้นไม่มีความจำเป็นก็ต้องถามกลับไปที่แกนนำ นปช.ว่าเป็นตัวประกอบในรัฐบาลใช่หรือไม่
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ ว่าแสดงจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ชอบรัฐธรรมนูญเผด็จการนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 และไม่ได้สนใจที่มา แต่สนใจเนื้อหามากกว่า เพราะฉะนั้น ถ้าหาก ร.ต.อ.เฉลิม ยังเกลียดรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการ ก็อยากจะถามว่าเจ้านายของตัวเองที่ได้ดิบได้ดีจากอำนาจเผด็จการเหมือนกัน และขอให้บอกว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีตรงไหนที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
นายเทพไทกล่าวต่ออีกว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ในหมวดพระมหากษัตริย์ มาตรา 8 ถึงมาตรา 25, มาตรา 102 (7) จะแก้ไขเปิดทางให้คนถูกยึดทรัพย์ และมาตรา 237 ที่เกี่ยวการยุบพรรคและมาตรา309 ที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรงจะแก้ไขหรือไม่ หากรัฐบาลสามารถตอบคำถามเหล้านี้ได้ชัดเจน เชื่อว่าเสียงคัดค้านจะน้อยลง ส่วนที่นายกฯ ออกมาปฏิเสธว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของ ส.ส.ร.รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ตนมองว่า การพูดนั้นพูดง่าย แต่คนที่ตั้ง ส.ส.ร.ก็คือรัฐบาล
นายเทพไทยังได้กล่าวต่อถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จะฟ้องร้องเรื่องการเผยแพร่แบนเนอร์ ป้ายโฆษณาคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญที่มีภาพใบหน้า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ด้วยนั้น ตนยินดีให้นายนพดลฟ้อง และพร้อมสู้คดี เพราะการเผยแพร่ป้ายโฆษณาของตนเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นไม่ได้หมิ่นประมาท แต่ถ้านายนพดลอยากได้เงินค่าจ้างจากนายใหญ่มาใช้ในการจ้างทนายฟ้องร้องก็เชิญตามสบาย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ตนก็จะแจกจ่ายสติกเกอร์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 1 แสนแผ่น ที่เดิมจะแจกจ่ายเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ แต่เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาท้าทาย ตนก็เห็นว่าจะฉลองศรัทธาของ ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยการไปแจกจ่ายในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน หากไม่เพียงพอก็จะทำเพิ่มอีก