อดีตโทรโข่งมาร์ค เชื่อ “นช.แม้ว” เบื้องหลังปาร์ตี้น้ำท่วมลาก “ป๋าเปรม” พบ “ปู” เคลียร์ขัดแย้งส่วนตัว แนะส่งสัญญาณให้ลิ่วล้อเลิกโจมตีอำมาตย์ เย้ยแดงนอนไม่หลับหลังรู้ถูกแกนนำหลอกพาก่อม็อบ งงโพลเพื่อไทยสำรวจตรงไหน จี้ “ยิ่งลักษณ์” ไปสำรวจสินค้า ยันค้านแก้ รธน.ไม่สร้างความขัดแย้ง ชี้เป็นสิทธิทางการเมือง
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ที่ออกมาระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้สึกปลาบปลื้มที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้พบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในงานรักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย ว่า ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังงานเลี้ยง เพราะเป็นความใฝ่ฝันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการจะเคลียร์ความขัดแย้งของตัวเอง กับประธานองคมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เพียรพยายามที่จะเคลียร์ปัญหาในลักษณะแบบนี้หลายครั้งแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เพราะครั้งหนึ่งก็เคยลงทุนให้ คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบ พล.อ.เปรม เพื่อเคลียร์เรื่องที่คาใจกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และนายกฯในระบอบทักษิณ ทุกคนก็เคยพยายามที่จะเข้าไปเคลียร์ปัญหากับ พล.อ.เปรม ทุกคนแต่ไม่สำเร็จ มาครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ใช้เงื่อนไขงานดังกล่าวโดยเอาดนตรีเป็นสะพานเชื่อมจนประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่า งานครั้งนี้ไม่ได้จัดเพื่อประโยชน์ของประเทศ แต่เป็นประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าเป็นอย่างนี้จริงงบที่ใช้ไม่ควรเอางบแผ่นดิน ควรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จ่าย ไม่ควรมาเบียดเบียนงบประมาณแผ่นดิน เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ปลื้มกับความสำเร็จในการจัดงานก็ให้คงความรู้สึกที่ดีอย่างนี้ตลอดไป ไม่ใช่เป็นการแสดงละคร หรือสวมหน้ากากเข้าหากัน และควรที่จะส่งสัญญาณให้ลิ่วล้อหยุดเคลื่อนไหวโจมตีอำมาตย์ได้แล้ว เพราะแกนนำเสื้อแดงทุกตนได้ดิบได้ดี เปลี่ยนสถานะจากไพร่กลายเป็นอำมาตย์ทุกคน
ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่ พล.อ.เปรม มาทำให้พรรคการเมืองบางพรรคนอนไม่หลับนั้น นายเทพไท กล่าวว่า คงไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเป็นคนในพรรคเพื่อไทยมากกว่า โดยเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดง หรือคนใน นปช.นอนไม่หลับครึ่งหนึ่ง เพราะรู้ทันแกนนำว่าถูกหลอกเอามวลชนคนเสื้อแดง เป็นบันไดนั่งร้าน ตกเป็นเครื่องมือหรือหมากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินเกม เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หาก พ.ต.ท.ทักษิณ และ พรรคเพื่อไทย และกลุ่ม นปช.มีความจริงใจที่จะให้เกิดความปรองดองจริง นับจากนี้ไปก็จะคงไม่มีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ออกมาเพ่นพ่านเรี่ยราดบนถนนอีก และตราบใดยังมีการเคลื่อนไหวโจมตีเรื่องอำมาตย์ และกองทัพ และคนที่เห็นต่างทางการเมืองก็แสดงว่าจุดยืนเรื่องความปรองดองที่ให้เกิดขึ้นในชาติเป็นแค่ลมปาก ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จัดฉากเพื่อให้สังคมตายใจ และให้ตัวเองได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาคุยเรื่องผลสำรวจความนิยม ว่า ประชาชนมีความพึงพอใจผลงานรัฐบาล 4 ด้าน ในอัตราส่วนร้อยละ 80-90 นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยไปสำรวจกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ไหน แต่ถ้าดูผลการสำรวจน่าจะเฉพาะพรรคเพื่อไทยหรือคนในพรรคดังกล่าวเท่านั้น เพราะผลสำรวจจากกรุงเทพโพล และสวนดุสิต เห็นชัดว่า ภาพรวมรัฐบาลยิ่งลักษณ์สอบตกได้รับความนิยมได้แค่ร้อยละ 4.92 และ 5.12 จากเต็ม 10 แสดงให้เห็นว่า ผลงานของรัฐบาลชุดนี้สอบตกเกือบทุกด้าน และที่ประชาชน เดือดร้อนแสนสาหัสขณะนี้คือปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และผลโพลของเรื่องดังกล่าวอยู่ในอันดับหนึ่งทุกผลการสำรวจ ซึ่งไม่เคยมีมาในอดีต เป็นเรื่องของความแตกแยกในสังคมกับปัญหา 3 จ.ชายแดน แต่วันนี้ประชาชนกลับรู้สึกว่าปัญหาปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง อยากให้รัฐบาลหยุดหลอกตัวเอง และยอมรับความจริงและฟังสิ่งที่ประชาชนเสียบ้าง อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกไปเดินตลาดสำรวจภาวะเศรษฐกิจ ราคาสินค้ามากกว่าเอาเวลาไป “ว.5” ตามโรงแรมชั้นระดับ 5 ดาว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์กรณีทำป้ายคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นการจุดไฟขัดแย้งในสังคมรอบใหม่ ว่า การแสดงออกของคนที่เห็นต่างเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคม คนที่เปิดประเด็นเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นผู้สร้างความขัดแย้งในสังคม หากจำกันได้วิกฤตของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นก็มาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 25 พ.ค.51 ในยุครัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง มาครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจุดประกายแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบที่ 2 ไม่เกรงกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกหรือ
“การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นสิทธิทางการเมืองที่สามารถเคลื่อนไหวได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยกลัวความขัดแย้งรอบใหม่ก็ไม่ควรฟื้นฝอยหาตะเข็บ โดยผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว ทั้งที่ปัญหาปากท้องของประชาชน มีความสำคัญมากที่สุด รัฐบาลกลับไม่เหลียวแลกลับไปแก้ปัญหาให้พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ส่วนสำหรับการออกแบรนเนอร์ และสติ๊กเกอร์ที่เปิดตัวไปเมื่อวาน 1 หมื่นชุด กับ 1 แสนแผ่น ขณะนี้มีประชาชนติดต่อเข้ามาขอเพื่อนำไปเคลื่อนไหวและติดท้ายรถยนต์จำนวนมาก หากประชาชนมีความสนใจจำนวนมากเช่นนี้ ก็อาจจะมีการจัดทำเพิ่มเพื่อแจกจ่ายไปทั่วประเทศ” นายเทพไท กล่าว