ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “สุวัจน์” เป็นประธานวางศิลาฤกษ์หอประชุมอำเภอเมืองนครราชสีมา 160 ล้าน ขณะผู้ว่าฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ ชาวโคราชอวยพรวันเกิด “สุวัจน์” ครบ 57 ปี ด้านเจ้าตัวเผยเป็นนักการเมืองรับใช้ปชช.ชาวโคราชมาครบ 2 รอบ 24 ปี อยากเห็นประเทศชาติปรองดองสามัคคี ชี้ “ป๋าเปรม” เป็นประธานงานรักเมืองไทยฯ ที่รัฐบาลจัดเป็นภาพลักษณ์ความร่วมมือที่ดี ระบุไม่มีใครอยากเห็นอยากให้เกิดปฏิวัติ เหตุไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติ
วันนี้ ( 11 ก.พ. ) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างหอประชุมอำเภอเมืองนครราชสีมางบประมาณจำนวน 161,660,000 บาท ซึ่งเป็นอาคารหอประชุมอเนกประสงค์ ขนาดความจุ 4,000 คน ตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ
โดยมีนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะ ส.ส. นครราชสีมา พรรคชพน. และ นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา ผู้นำชุมชน กลุ่มพลังมวลชนให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าฯนครราชสีมาในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวโคราช ได้นำคณะรองผู้ว่าฯ นครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน พ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ มอบกระเช้าดอกไม้ และมอบดอกกุหลาบอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 57 ปีของ นายสุวัจน์ ด้วย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนชาวโคราชว่า ตนเป็น ส.ส.ตอนอายุ 33 ปี จนปีนี้ตนอายุ 57 ปี ถือว่า 24 ปี เท่ากับ 2 รอบแล้วที่ได้รับใช้พี่น้องประชาชาชาวโคราชและทุกคนมีความปรารถนาดีต่อตนมาตลอด ทั้งนี้วันเกิดของตนปีนี้อยากเห็นการเมืองไทยไปในทิศทางที่มีความรู้สึกเดียวกับทุกฝ่ายที่อยากจะเห็นภาพของความปรองดองและภาพความเรียบร้อย ภาพความเข้าใจกัน หรือการหันหน้าเข้ามาหากันของทุกฝ่าย เพื่อให้ปัญหาต่างๆได้ยุติและพวกเราจะได้พัฒนาประเทศเร่งรัดการแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจอีกมาก
ฉะนั้นถ้าพวกเราเข้าใจกันและเป็นทีมเดียวกันมันจะเป็นเรื่องดี ตนเองได้อยู่ในวงการการเมืองมาตลอดคิดว่าพื้นฐานของความเข้าใจหรือความเป็นปึกแผ่นของนักการเมืองด้วยกันจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความปรองดอง คนไทยรักกัน เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโทรศัพท์มาอวยพรวันเกิดมีได้พูดคุยถึงการเมืองหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ท่านกรุณาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ตนทุกปี ท่านให้พร โดยบอกว่าท่านเคยอวยพรวันเกิดหลายๆครั้ง อยากที่จะให้มีความสุข และให้ตนมีความสำเร็จก็เป็นความปรารถนาดีตนต้องขอบพระคุณท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ไม่มีอะไร เรื่องการเมืองคงจะต้องดูช่วงหลังจากที่บ้านเลขที่ 111 เขาเรียบร้อยกัน ตนเองคิดว่าอยากจะเห็นทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันทำงานให้ประเทศ เพราะนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์เหมาะกับเหตุการณ์บ้านเมืองในวันนี้ที่เขาจะมาช่วย
ฉะนั้นอยากให้เขากลับเข้าสู่วางการการเมืองกันหรือว่า ถ้าไม่กลับเข้าสู่วงการการเมืองอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในฐานะคนไทยพวกเราต้องมาช่วยกัน ซึ่งทุกคนที่กลับมาไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเป็นรัฐมนตรีทุกคนหรือจะต้องมาเป็น ส.ส. เพราะจังหวะนี้มันยังไม่ใช่จังหวะเลือกตั้ง แต่คงจะมาในเรื่องของการช่วยสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาให้คำปรึกษาหารือต่างๆ ยกเว้นว่าเกิดมีจังหวะที่มีการปรับ ครม. อันนั้นเป็นจังหวะของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกทีหนึ่ง เป็นเรื่องเหตุการณ์อนาคต แต่คนต่างๆเหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
ต่อข้อถามถึงงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ที่รัฐบาลจัดเมื่อคืนที่ผ่านมาโดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มาเป็นประธานในงานด้วยนั้นจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีในการปรองดองหรือไม่ นายสุวัจน์ ตอบว่า ถ้าดูโดยภาพรวมตนคิดว่า พล.อ.เปรม ถือว่าท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ท่านไปงานที่ไหนก็ต้องถือว่าเป็นงานที่ดีอยู่แล้ว และตนคิดว่าภาพที่ปรากฏต่อสายตาเป็นภาพที่ทำให้มีความรู้สึกเหมือนว่ามีความร่วมมือกันที่จะร่วมกันสร้างประเทศไทย และมีความร่วมมือกันในการที่จะต่อสู้กับวิกฤติต่างๆ มันทำให้เกิดกำลังใจให้กับทางด้านการเมือง ด้านข้าราชการ ด้านพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าการจัดงานถือว่าเป็นภาพที่ดีที่ทำให้เรามีความรู้สึกว่าจากนี้ไปเราจะขับเคลื่อนประเทศไทยร่วมกัน
กรณีมีการพูดเรื่องปฏิวัติออกมามากในช่วงนี้มองอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องปฏิวัติคงไม่มีใครอยากเห็นและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าเวลาที่มีการปฏิวัติเกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศ ฉะนั้นคงไม่มีใครอยากเห็นไม่มีใครอยากให้เกิด เราอยากเห็นประชาธิปไตยมากกว่า อยากได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับประชาธิปไตยมากกว่า และข่าวดีที่ว่าเราเข้าใจกัน ปรองดองกัน