“แม้ว” เริ่มจัดแถวเสื้อแดงคู่ขนานนอกสภา เน้นหัวโจกสั่งได้!!

ผ่าประเด็นร้อน

เมื่อสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงทุกวินาที ก็ยิ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกำลังจะมีวาระสำคัญประดังเข้ามา มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่มีโอกาสเปิดการปะทะได้ทุกเมื่อ เพราะเท่าที่เห็นก็มีเรื่องร้อนๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นิติราษฎร์ที่เวลานี้ได้กลายสภาพเป็นคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) เตรียมเดินสายไปทั่วประเทศ ซึ่งก็คงเน้นเฉพาะบางพื้นที่ ที่มีคนเสื้อแดงในเครือข่ายเคลื่อนไหวอยู่

แต่ปมปัญหาก็คือการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวมันเหมือนมีเจตนายั่วยุสร้างอารมณ์โกรธให้คนไทยทั่วไป เหมือนกับว่า “รับงาน” มาทำหน้าที่เพียงแค่เขย่าสถาบันพระมหากษัตริย์ให้สั่นสะเทือน สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในสังคม เหมือนกับต้องการหยั่งเชิงดูปฏิกิริยา หากไม่มีแรงต่อต้านมากก็จะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ในทางตรงกันข้ามก็จะแปรสภาพออกมาในรูปแบบอื่น เหมือนอย่างที่กำลังเป็นอยู่

ซึ่งแน่นอนว่าหากพิจารณาดูจากพฤติกรรมย้อนหลัง และเป้าหมายที่จะเดินไปข้างหน้าล้วนสอดคล้องกับเป้าหมายของ ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ออกมาในลักษณะ “แยกกันเดิน แยกกันตี แต่มีปลายทางเดียวกัน”

นั่นก็เป็นหนึ่งในหลายกลุ่มที่เครือข่ายทักษิณ ปล่อยออกมาป่วน ซึ่งก็ได้ผล สร้างกระแสความไม่พอใจ ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ และที่สำคัญจงใจทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับผลกระทบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ขณะเดียวกัน ภารกิจหลักอีกอย่างหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในสัปดาห์สองสัปดาห์ข้างหน้าก็คือการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลกำลังร่วมผลักดันเสนอแก้ไขมาตรา 291 เพื่อเปิดทางไปสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ส่วนนอกสภาฝ่ายคนเสื้อแดงในสังกัดก็กำลังล่ารายชื่อเพื่อขอแก้ไขในนามของประชาชนเข้ามาอีกทางหนึ่ง

นอกเหนือจากนี้ หากยังจำกันได้เมื่อไม่กี่วันก่อน รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็เริ่มส่งสัญญาณออกมาให้เห็นแล้วว่า กำลังรอจังหวะเสนอร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ (นิรโทษฯ) มีเนื้อหาสั้นๆเพียงแค่ 6 มาตรา แต่ก็ครอบคลุมยกเว้นความผิดได้ครอบจักรวาล โดยเฉพาะคนที่ทำความผิดที่เกี่ยวข้องทางการเมืองก่อนเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 ทุกอย่างก็จะกลายเป็นโมฆะ

ขณะเดียวกันก็เริ่มมีการแพลมข่าวออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการ จากรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศักดา คงเพชร บอกว่ากำลังเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติล้างมลทินเข้ามาต่อเนื่องอีกฉบับหนึ่ง สอดรับกันแบบเป็นขั้นเป็นตอน

กลายเป็นว่าเวลานี้เครือข่ายระบอบทักษิณ กำลังเกิดเกมรุกเข้ามาพร้อมกันทุกทาง ซึ่งวิธีการก็มีหลายรูปแบบทั้งประเภทหักเข้ามาตรงๆ หรือใช้วิธีตบตาอำพราง อย่างกรณีเชิญ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มาเป็นประธานเปิดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” อ้างว่าเป็นการสร้างความ “ปรองดอง” ต้องการสร้างภาพให้เห็นว่า จับมือกับ “อำมาตย์” กันเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ที่น่าจับตาก็คือในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้กลับมีความเคลื่อนไหวบางอย่างสอดแทรกเข้ามานั่นคือ ข่าวการเปลี่ยนตัว “หัวโจก” คนเสื้อแดง จากเดิมที่มี ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ทำหน้าที่รักษาการประธานอยู่ และแม้ว่าหากพิจารณาดูเผินๆก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก เพราะเป็นการคัดเลือกกันใหม่ให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ความหมายที่รับรู้กันก็คือ ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงซึ่งมาจากร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างมา แต่แทบทุกกลุ่มล้วนยึดโยงอยู่กับ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ธิดา ถาวรเศรษฐ์ นี่แหละที่ถูกมองว่า มีเป้าหมาย มีความฝันเป็นของตัวเอง แต่ต้องการใช้มวลชนเสื้อแดงเดินไปสู่เป้าหมาย

ที่สำคัญ ทักษิณสั่งไม่ได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่แหละคือปัญหาที่ต้องมีการขยับเปลี่ยนคนใหม่เข้ามาแทน ซึ่งเวลานี้ก็มีคนที่กำลังแสดงบทบาทนำให้โดดเด่น ก็คือ จตุพร พรหมพันธุ์ แต่ก็มีเสียงคัดค้านไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มแดงอุดรธานีในสังกัดของ ขวัญชัย ไพรพนา (สาราคำ) และที่ผ่านมาก็ขบเหลี่ยมช่วงชิงการนำมาตลอด แต่ในที่สุดไม่ว่าจะได้ใครมาเป็น “หัวโจก” คนใหม่หลักการก็คือ ต้องเป็นคนที่ ทักษิณ ชี้นิ้วสั่งได้เท่านั้น

เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า เพื่อประโยชน์ในการเคลื่อนไหวด้านมวลชนนอกสภา เพื่อเดินคู่ขนานกันไปกับในสภาโดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อเนื่องไปจนถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะตามมา เพื่อล็อกสเป็กเข้ามาให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันในสภาพที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เริ่มอ่อนเปลี้ยลงทุกวันมันก็ต้องมีมวลชนคอยค้ำยันเอาไว้ หรือหากเกิดเหตุไม่คาดหมายต้องเผชิญหน้ากับกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นิติราษฎร์ที่อาจบานปลายทุกเมื่อ ก็สามารถเป่านกหวีดออกมาชนได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกัน

ดังนั้น นี่คือคำตอบว่าทำไมถึงต้องมีการจัดแถวระดับหัวโจกคนเสื้อแดงเสียใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง เพราะกำลังมีภารกิจสำคัญรออยู่ข้างหน้าที่กำลังเคลื่อนมาพร้อมๆ กัน ซึ่งทุกอย่างล้วนมีเป้าหมายเพื่อให้ “เจ้าของ” คนที่ลงทุน คือ ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะทุกเรื่องต้องใช้คนที่ไว้ใจได้เท่านั้น ตัวอย่างก็เห็นอยู่ตำตาแล้วว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดก็ล้วนเป็นรัฐมนตรีเด็กในบ้าน เรื่องอื่นๆมันก็ไม่ต่างกัน!!