แก๊งแดงยื่นแก้ไข รธน.มาตรา 291 ต่อประธานสภาฯ ให้มี ส.ส.ร. จากการเลือกตั้ง 100 คน กรุงเทพฯ เลือกได้ 6 โคราช 4 “สมศักดิ์” ขอเวลา 2 เดือนตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่ยื่นแก้ไข “เหวง” ประกาศยกมือหนุนร่างของสาวกแดง อ้างมีความก้าวหน้ากว่ารัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (9 ก.พ.) นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน เดินทางมาที่รัฐสภา เพื่อยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 60,000 รายชื่อเสนอร่างไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา
นางธิดา กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ ที่จะก้าวสู่ความปรองดองอย่างแท้จริง โดยมีนิติรัฐที่เป็นนิติธรรม และก็ขอให้ทุกฝ่ายฟังเสียงของประชาชน เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของประชาชน เพราะถึงแม้ว่าจะมี ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชนในสภาฯ แต่ภาคประชาชนก็ยังต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
นางธิดา กล่าวว่า ร่างของ นปช.แม้ว่าจะไม่มีนักวิชิการที่มีชื่อเสียงเข้าร่วม แต่ก็ทำขึ้นจากความเห็นของประชาชน เพราะ นปช.มีจุดยืนอยู่ที่ประชาชน ไว้ใจประชาชน โดยที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยประชาชนเอง โดยรัฐธรรมนูญปี 50 นั้นถือว่าขัดต่อหลักนิติรัฐและนิติธรรม นปช.จึงจำเป็นต้องเดินหน้า เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ จึงเป็นที่มาของร่างฉบับนี้ ซึ่งร่างของ นปช.จะกำหนดให้มีการเลือก (ส.ส.ร.) 100 คน จากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีการสรรหาหรือแต่งตั้ง แต่จะคำนึงถึงพื้นที่และสัดส่วนของประชากร ซึ่งมีการยืนพื้นจังหวัดละ 1 คน แต่ในพื้นที่ๆ มีประชากรเยอะก็อาจจะต้องมี ส.ส.ร.มากกว่าหนึ่งคน โดยคำนวณสัดส่วน 650,000 คนต่อ ส.ส.ร.1 คน
"อย่างในพื้นที่ กทม.ก็จะได้ ส.ส.ร.ทั้งหมด 9 คน และในจังหวัดนครราชสีมา ก็จะได้ ส.ส.ร.4 คน ทั้งนี้ ส.ส.ร.จะไม่มีการจำกัดวุฒิการศึกษา ซึ่งคนที่จบการศึกษาระดับชั้นประถม 4 ก็สามารถสมัครเข้ารับเลือกตั้ง ส.ส.ร.ได้ และภายหลังจากที่ใช้เวลาร่างประมาณ 8 เดือนแล้ว ก็จะนำไปทำประชามติ เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร และนำขึ้นทูลเกล้าต่อไป โดยที่ทุกฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง"
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการมีส่วนร่วมของประชาชน ยินดีที่จะได้เห็นการมีส่วนร่วมเช่นนี้ เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนจะนำร่างดังกล่าวนำเข้าสู่ระเบียบวาระของสภาฯ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตตอนของสภาฯก็คือการตรวจสอบรายชื่อให้มีความถูกต้องไม่ต่ำกว่า 50,000 รายชื่อ คาดว่าคงใช้เวลาไม่เกินกว่า 2 เดือนก็คงเสร็จสิ้น และตนขอยืนยันว่าไม่มีการปฎิบัติสองมาตรฐานอย่างแน่นอน
ภายหลังจากการยื่นร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น นางธิดา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเชิญพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ รัฐบาลไม่ใช่ของคนเสื้อแดง ตนให้สิทธิและเกรียติในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้หาก นปช.เป็นผู้จัดงานก็จะไม่เชิญ พล.อ.เปรม เข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของ นปช.คือการทำให้ประชาชนเข้มแข็ง
นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นสามีของนางธิดา กล่าวก่อนการยื่นร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่ม นปช.ต่อประธานสภาว่า วันนี้ตนยังคงมีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญของทางพรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัด นั้นก็คือการยึดเอารัฐธรรมนูญในปี 40 มาเป็นที่ตั้ง แต่ความคิดเห็นของตนนั้น หากจะให้มีการเลือก ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คน ก็จะเกิดความไม่เป็นธรรม เพราะจำนวนอัตราส่วนของประชาชนในพื้นที่ต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน เช่น พื้นที่ของ กทม.มีประชากรถึง 10 ล้านคน แต่กลับเลือก ส.ส.ร.ได้เพียงคนเดียว ในขณะที่จังหวัดระนองมีประชากรอยู่ประมาณ 1.5 แสนคน ก็สามารถเลือกได้ 1 คนเช่นกัน โดยร่างของ นปช.ยึดหลักของสิทธิความเท่าเทียมของประชาชน จึงจะยึดเอาสัดส่วนของประชาชนในแต่ละพื้นที่เป็นที่ตั้ง แต่ก็จะมีการเลือกตั้งเช่นเดียวกับร่างของพรรคเพื่อไทย
นพ.เหวง กล่าวว่า ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.ร.นั้นก็จะไม่มีการขัดเส้นว่าจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เพราะในความเป้นจริงแล้วในประเทศไทยมีคนจบปริญยาตรีเพียงแค่ 2 ล้านคน ซึ่งถ้าเราจะยึดหลักตรงนั้นคนอีก 65 ล้านคนก็จะไม่มีสิทธิเสนอความคิดเห็นใดๆ และเหมือนเป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชนทั้งประเทศด้วย
ส่วน ส.ส.ร.นั้นจะต้องเอามาร่างรัฐธรรมนูญแบบที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในทุกๆ มาตรา ไม่ใช่การแอบไปทำกับในห้องแคบๆ โดยที่ประชาชนไม่รับทราบ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน และทำเพื่อประชาชน โดยประเด็นเหล่านี้ตนได้เรียนไปยังพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งก็คาดว่าทางพรรคคงจะรับฟัง
นพ.เหวง กล่าวว่า สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ตนสนับสนุนร่างของทาง นปช.เพราะเห็นว่ามีความก้าวหน้ามากกว่า แล้วก็สงวนความคิดเห็นที่จะเห็นด้วยกันร่างของ นปช.ไปแล้ว โดยตนก็ได้บอกกับที่พรรคเพื่อไทยไปแล้วถึงความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นการแตกแยกกัน แต่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
