“สมเจตน์” เชื่อพิมพ์เขียว รธน.ใหม่เสร็จแล้วรอแค่กระบวนการ สู่เผด็จการทุนสามานย์

“ส.ว.สมเจตน์” แนะดูพฤติกรรม “ไอ้ตู่” น่าเชื่อถือหรือไม่ รับปฏิวัติมีโอกาสเกิดเสมอถ้าชาติไปไหนไม่ได้ ยันไม่สนับสนุน เชื่อ ยังมีทางออกอยู่ที่ประชาชน คาด แกนนำแดงกุข่าวแค่ปลุกม็อบแก้ รธน.ซัดแก้ ม.291 ล้มล้าง รธน.โดยเผด็จการรัฐสภา งงเห็นบกพร่องตรงไหนทำไมไม่แก้รายมาตรา เชื่อพิมพ์เขียวเสร็จแล้วแต่แค่รอกระบวนการ สู่ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์

วันนี้ (10 ก.พ.) พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์กรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้ข่าวจะมีการปฏิวัติในเดือนเมษายน ว่า ต้องพิจารณาว่าข่าวนั้นออกมาจากใคร และคนที่ให้ข่าวนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่โดยดูจากพฤติกรรมในอดีตที่ผ่านมา ถ้าเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือก็ไม่ต้องให้ความสำคัญ แต่หากเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับของสังคมก็คงต้องมาดูถึงโอกาสว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่

พลเอก สมเจตน์ กล่าวว่า การปฏิวัติมีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ และถ้าบ้านเมืองไม่สามารถเดินไปได้ หนีไม่พ้นเรื่องการปฏิวัติแน่นอน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าถึงจุดสุดท้ายแล้วหรือยัง หรือมีแนวทางการแก้ปัญหาอื่นๆอยู่หรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่สนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติ และเชื่อว่าวันนี้ประเทศชาติยังมีแนวทางออกอยู่ การปฏิวัติอยู่ที่ประชาชน หากประชาชนถึงที่สุดแล้ว ไม่มีวิธีการแก้ไข ประชาชนออกมาเรียกร้องแล้วแต่เสียงข้างมากยังไม่สนใจโดยยืนยันจะบริหารประเทศจนถึงจุดอับจนถึงกับสิ้นชาติ หนทางสุดท้าย ก็คือ การปฏิวัติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ นายจตุพร ออกมาให้ข่าวปฏิวัติ ก็เพราะหวังผลทางการเมือง พลเอก สมเจตน์ บอกว่า คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญ เขาปลุกพลังคนเสื้อแดงขึ้นมาเพื่อใช้นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ได้ นั่นคือ การล้มล้างรัฐธรรมนูญ แต่เปลี่ยนจากการล้มรัฐธรรมนูญแบบปฏิวัติรัฐประหารเป็นแบบใช้เผด็จการรัฐประหาร แล้วอาจจะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างประเทศทั้งหมด ทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ที่มีการคานอำนาจกันจะถูกยึดกุมเพียงคนคนเดียว และประเทศไทยอาจถึงคราวสิ้นชาติ

“ไม่มีใครเคยพูดเลยว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีข้อบกพร่องอย่างไร มีแต่พูดว่ามาจากการปฏิวัติ เป็นผลไม้พิษที่มาจากต้นไม้พิษ พูดแค่นั้นแล้วก็มาพูดถึงวิธีการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อจัดตั้งส.ส.ร.ซึ่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ว่าไว้ว่า หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ให้แก้ไขตามมาตรา 291 บัญญัติไว้ ว่า มาทีละมาตราว่าจะแก้ไขมาตราใด แต่ตอนนี้ไม่ใช่กลับมีการเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของ ม.291 เข้าไป นี่แหละคือการล้มล้างรัฐธรรมนูญโดยเผด็จการทางรัฐสภาให้ข้อสังเกตตรงนี้เอาไว้ว่า รัฐธรรมนูญนั้นมีข้อบกพร่องตรงไหน หากมีข้อบกพร่องจริงทำไมไม่แก้เป็นมาตราๆ ไป ทำไมต้องล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การแก้มาตรา291 นั้นเป็นการเซ็นเช็คเปล่าให้แล้ว ไปกรอกข้อมูลเอง” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

พลเอก สมเจตน์ บอกว่า เชื่อว่า พิมพ์เขียวของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เสร็จแล้ว เพียงแต่ขณะนี้เป็นการสร้างกระบวนเพื่อรองรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น เหมือนให้เป็นไปตามประชาธิปไตย แต่แท้จริงมิได้เป็นไปตามประชาธิปไตย เพียงแต่แค่สร้างกระบวนต่างๆ ประเทศไทยกำลังเป็นประชาธิปไตยแบบเผด็จการรัฐสภาโดยทุนนิยมสามานย์ โดยมีการกุมอำนาจโดยบุคคลคนเดียวกัน เท่ากับว่า ไม่แตกต่างอะไรจากเผด็จการทหารที่ทุกคนต่างรังเกียจ