“ชูวิทย์” หอบหลักฐานยัน “ชัยวัฒน์” ลงลายมือชื่อลาออกยื่น กกต. เล็งนำคลิปสารภาพรับผลประโยชน์สร้างถนนยื่น ปปช.เชือดซ้ำ 8 ก.พ.นี้ ด้าน “ชัยวัฒน์” โวไม่โง่ลาออก เชิญแฉพร้อมเผชิญหน้าในศาล ชี้แจ้งความ “ชูวิทย์” หมิ่นประมาทแล้ว
วันที่ 5 ก.พ. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงยืนยันว่า นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรครักประเทศไทย ได้ลงลายมือชื่อลาออกด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา และที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้รับทราบ โดยมีการถ่ายภาพบันทึกไว้ด้วย เรื่องนี้ตนได้ยื่นหลักฐานเอกสารให้ กกต.รับทราบแล้ว หากนายชัยวัฒน์ยังยืนยันว่าไม่ได้ลาออกก็ขอให้ไปชี้แจงต่อ กกต.เอง นอกจากนี้ ตนจะนำคลิปวิดีโอที่นายชัยวัฒน์ได้ยอมรับว่าได้รับผลประโยชน์จากโครงการสร้างถนนผ่านบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ที่ห้ามไม่ให้ ส.ส.แทรกแซงการทำงานของหน่วยงานรัฐ ในวันที่ 8 ก.พ.นี้
“ถ้าต้องให้เลือกระหว่างเพื่อนกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผมขอเลือกผลประโยชน์ของประเทศชาติ ที่ผ่านมาตั้งแต่นายชัยวัฒน์ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.และเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่เคยเข้าร่วมประชุมกับกรรมการบริหารพรรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยช่วยหาสมาชิกพรรค และไม่เคยช่วยงานพรรค วันนี้ผมไม่ได้กลัวจะเสียสมาชิก แต่ถ้าเราไปด้วยกันไม่ได้ก็ต้องออกไป ผมต้องขอกวาดบ้านตัวเองให้สะอาดก่อนที่จะไปกวาดบ้านคนอื่น” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์กล่าวถึงพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจของนายชัยวัฒน์ด้วยว่า เคยโหวตสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในการอภิปรายไม้ไว้วางใจรัฐบาล โดยอ้างว่ากดผิด ซึ่งจากการสืบข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการโหวตเพื่อเอาใจรัฐบาล หวังที่จะไปลงสมัคร ส.ส.เขต จ.นครศรีธรรมราช ให้กับพรรคเพื่อไทย เดินตามนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน นอกจากนี้ ในขณะนี้นายทะเบียนของพรรครักประเทศไทยกำลังดำเนินการตรวจสอบหนังสือการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของนายโปรดปราน โต๊ะราหนี เพื่อดำเนินการส่งต่อให้ กกต.ดำเนินการต่อไป เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมที่จะให้ปป.ดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในวันเดียวกันนี้ นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ได้ตอบโต้นายชูวิทย์ว่า ยอมรับว่าได้ลงลายมือชื่อลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคจริง แต่ไม่ได้ลงชื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตามที่มีการกล่าวอ้าง ตนเป็นนักกฎหมายคงไม่โง่ที่จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อให้สิ้นสุดความเป็น ส.ส. ขณะนี้ตนยังคงทำหน้าที่ ส.ส.เข้าประชุมในสภาฯ อยู่และยังเป็นกรรมาธิการยุติธรรมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการต่อสู้ในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นเอกสารชี้แจงหมดแล้ว
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อนายชูวิทย์ในข้อหาหมิ่นประมาทที่กล่าวหาตนในเรื่องการทุจริต ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ตนไม่ห่วงว่านายชูวิทย์จะเอาอะไรออกมาโชว์อีก หากมีอะไรก็เอาออกมาโชว์เลย และก็ไปต่อสู้กันในชั้นศาล