“ดร.เทียนชัย” คาด “อเมริกา” อยู่เบื้องหลังเหตุป่วนทั้งหมดในไทย ตั้งแต่ความรุนแรงภาคใต้-รัฐประหาร-เผาบ้านเผาเมือง ฯลฯ หวังให้ประเทศวุ่นวาย จะได้ส่งทหารเข้ามาตั้งฐานทัพ เพื่อใช้ในการสกัดอำนาจจีน พร้อมตั้งข้อสังเกต “คอร์เนล” เป็นอีกยุทธศาสตร์ขยายอำนาจของสหรัฐฯ ด้วยการครอบงำความคิดนักศึกษาต่างชาติ ซึ่ง “ชาญวิทย์” ก็เป็นหนึ่งในผลผลิตนั้น
วันที่ 3 ก.พ. เมื่อเวลา 20.30 น. ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ (ยุค ศรีอริยะ) นักวิชาการอิสระ กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า อเมริกากำลังกลัวการขยายอำนาจของจีนอย่างรุนแรง จึงต้องการปิดล้อมจีน ครั้งหนึ่งอเมริกาไปตั้งฐานทัพซ้อมรบใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือ เพื่อหวังให้ลูกระเบิดไปลงที่เกาหลีเหนือ แต่พอถูกถล่มกลับ อเมริกาก็ประณามเกาหลีเหนือว่าโจมตีเกาหลีใต้ แล้วใช้กลยุทธ์บอกว่าญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ต้องจับมือกัน เพื่อต้านเกาหลีเหนือ โดยหวังให้จีนไปหนุนหลังเกาหลีเหนือ แต่จีนอ่านเกมขาด เลยขอวางตัวเป็นกลาง อีกทั้งจีนได้บอกเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ว่าวิธีเดียวที่จะดูแลไม่ให้เกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์เล่นงาน ก็คือต้องสร้างพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่างจีน ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ เพื่อลดอันตรายของผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะปกป้องอันตรายตรงนี้ได้ จากนั้นก็มีการเปิดสัมพันธ์กัน ถือว่าจีนประสบความสำเร็จ แต่อเมริกาล้มเหลวในเกมนี้
สงครามระหว่างจีนกับอเมริกา ปัจจุบันเหมือนสงครามเย็น อเมริกาต้องการเปิดแนวรบในการเผชิญหน้ากับจีน
ดร.เทียนชัยกล่าวต่อว่า อีกจุดสำคัญอยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแหล่งช่วงชิงใหญ่ของยุทธการการขยายตัวของจีน และการเผชิญหน้าของอเมริกา ครั้งหนึ่งไทยเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามเวียดนาม ในการเป็นฐานทัพ ถ้าอเมริกาวางแผนสกัดจีน ตนเป็นห่วงเรื่องนี้ ว่าจะดึงไทยเข้ามาเป็นศูนย์หน้าในการเผชิญหน้า และแนวโน้มก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
จำได้หรือไม่ตอนที่อเมริกาบุกอิรัก รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ส่งกำลังไปร่วมรบในตอนแรก แต่หลังจากที่อเมริกาชนะอิรัก พ.ต.ท.ทักษิณไปอเมริกา หลังไปจับมือกัน สหรัฐฯเรียกไทยว่าเป็นพันธมิตรนอกนาโต แค่เราส่งทหารไปอิรัก ก็เหมือนที่ทุกประเทศทำ มันจะพิเศษได้อย่างไร ถ้าไม่มีอะไรมากกว่านั้น เลยคิดว่าต้องเป็นเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้าย ที่ขณะนั้นสหรัฐกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงตามต่อและเริ่มสงสัยว่าการสั่งเก็บ อุ้มฆ่าคนในภาคใต้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
กรณีการยึดกรือเซะ พล.อ.ชวลิตสั่งให้ไม่บุก แต่มีทหารท่านหนึ่งสั่งให้บุก และขณะที่สั่งบุก CNN มาตั้งกล้องถ่ายและแพร่ข่าวกระจายไปทั่วโลก สักพักรองประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ออกมาประกาศทันทีว่าอเมริกาพร้อมส่งกองกำลังรบมาช่วยไทยสู้กับผู้ก่อการร้าย
ภูมิภาคนี้มุสลิมเยอะมากสุดคือที่อาเจะห์ ในอินโดนีเซีย ตอนที่อเมริกาบุกอิรัก ชาวมุสลิมได้ประกาศจีฮัด หรือสงครามศักดิ์สิทธิ์ มีการส่งคนไปช่วยอิรักรบ ซึ่งอเมริกาอาจต้องการให้มีกองกำลังช่วยรบเข้ามาในไทยด้วย เพราะถ้าไทยรับไม่ไหว อเมริกาก็จะเข้ามามีกองทัพที่ประเทศไทย ในนามของการปราบปรามผู้ก่อการร้าย ถึงตอนนี้ตนก็ยังเป็นห่วงโมเดลนี้ที่สุด
ดร.เทียนชัยยังกล่าวว่า เหตุการณ์ 19 กันยา ตนสงสัยว่าอเมริกาหนุนรัฐประหาร โดยนายพล 2 คน ที่เคยทำงานใกล้ชิดอเมริกา คนหนึ่งที่บุกกรือเซะ ท่านมาอยู่ฝ่ายเสื้อเหลืองชัดเจน และมีอิทธิพลมากในกอ.รมน. ซึ่งปฏิบัติการล้มพ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มด้วยกองกำลังหน่วยแรกที่เรียกว่ากอ.รมน.
เชื่อว่าอเมริกาใช้ยุทธศาสตร์เรียกแบบไทยๆ ว่า ตาอินกับตานา คือยุให้สองฝ่ายตีกัน เพื่อตัวเองจะได้เป็นตาอยู่ อย่างเช่นที่ลิเบีย ชัดเจนสหรัฐฯไม่เอากัดดาฟี แต่หลังจากที่โค่นกัดดาฟีแล้วก็ไม่หนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ใหญ่ขึ้นมา และปล่อยให้รบกันต่อ เพราะตราบใดที่แตกกันก็ยังต้องซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ และหวังผลครอบครองแหล่งน้ำมัน อีกจุดก็ที่โคโซโว ยุมุสลิมกับคริสเตียนให้เผชิญหน้ารุนแรง เพื่อเอาฐานทัพเข้าไป
หรืออย่างการที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ดูไบ ดูไบเป็นตัวเชื่อมกับซาอุ ซึ่งใกล้ชิดกับอเมริกา และมีสถานีข่าวที่สิงคโปร์คอยช่วยพ.ต.ท.ทักษิณตลอด คอยออกข่าวเสื้อแดง ตีข่าวให้
ดร.เทียนชัยกล่าวอีกว่า ตอนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง มีการดึงนายพลท่านหนึ่งไปนั่งวางแผนกับ พ.ต.ท.ทักษิณและเสธ.แดง ท่านประหลาดเดิมอยู่สีเหลือง แต่จู่ๆก็ไปแดง ด้วยสาเหตุอะไรไม่รู้ แต่เป็นยุทธศาสตร์ทางการทหาร เพื่อปฏิบัติการพิเศษบางอย่าง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น คนชุดดำ สายข่าวบอกเป็นทหารรับจ้าง ปฏิบัติการอยู่ที่ราชบุรี กาญจนบุรี ทหารพวกนี้ซีไอเอเป็นคนดูแล ใกล้ชิดกันมาก
ที่แปลกคือ พ.ต.ท.ทักษิณไม่รู้หรือว่าคนเสื้อแดงหรือต่อให้มีคนชุดดำด้วยก็ตาม รบกับทหารอย่างไรก็ไม่ชนะ ทำได้อย่างมากก็คือก่อการจลาจล หวังให้คนตายเยอะๆ รัฐบาลจะได้ลาออก แผนอเมริกาต้องการเข้ามาไทยในนามของยูเอ็น เพื่อเข้ามาจัดการการเลือกตั้ง ซึ่งยูเอ็นไม่มีกองกำลังทหารเอง ต้องไปเอาทหารยุโรป-อเมริกาเข้ามา กรณีนี้มีการใช้ในหลายประเทศ ที่สหรัฐเข้ามาในนามของยูเอ็น
อเมริกาไม่ได้หนุน พ.ต.ท.ทักษิณเต็มที่ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณมั่นคง ก็จะมาสนับสนุนฝ่ายต้านพ.ต.ท.ทักษิณ อเมริกาต้องการไทย เพราะคือแนวรบที่ดีที่สุด จีนรุกพม่า-ลาวแล้ว เหลือไทยเท่านั้น ตนยังมองอีกว่าความขัดแย้งไทย-เขมร ก็อาจเป็นอีกกรณีหนึ่งที่อเมริกาอยากให้มีการสู้รบเพื่อจะได้ขายอาวุธ และเข้าแทรกแซงในนามของยูเอ็น
ส่วนกรณีที่ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ บอกว่ามาตรา 112 เป็นสิ่งที่ล้าหลัง ตนอยากฝากให้คิดกัน ว่าอเมริกามันมีศูนย์ใหญ่ เวลานักศึกษาต่างชาติเก่งๆไปเรียน มักส่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล ที่นั่นเป็นศูนย์รวมนักศึกษาต่างประเทศ และเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ประเทศต่างๆ
อเมริกาแผ่อำนาจไม่ใช่แค่ทางเดียว สำคัญที่สุดคือการครอบงำทางปัญญา คือการให้นักศึกษามีแนวคิดไปตามที่เขาต้องการ โดยใช้ทฤษฎีชาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่ สิ่งเก่าเป็นเรื่องล้าหลัง และอำนาจนิยม
ลองกลับไปดูงานของนักวิชาการคอร์เนล ไม่ว่าประวัติศาสตร์พม่า ลาว เวียดนาม ที่ผลิตโดยนักวิชาการกลุ่มนี้ ก็คือเรื่องสงครามเท่านั้น เรื่องกษัตริย์รบกับคนโน้นคนนี้ ให้ดูเป็นอำนาจนิยม ป่าเถื่อน คนเหล่านี้ชอบอ่านงานของฝ่ายซ้าย ชื่อว่า “โฉมหน้าศักดินาไทย” ของ จิตร ภูมิศักดิ์ จิตรเป็นคนเก่ง แต่เขาเอาแต่ภาพที่เลวร้ายของสถาบันกษัตริย์มาแสดงออก เป็นคนที่มองอดีตแบบภาพลบสุดๆ
คำถามที่ว่าสถาบันกษัตริย์ล้าหลังและอำนาจนิยมหรือเปล่า ถ้าตอบแบบคอร์เนล แบบจิตร ภูมิศักดิ์ ก็คือใช่ ด้วยพื้นฐานทฤษฎีว่าด้วยวิวัฒนาการ